MASTER ปิดดีล 6 กิจการ สยายปีกมุ่งเบอร์ 1 รพ.เฉพาะทาง
MASTER เสริมแกร่งต่อเนื่อง ล่าสุดปิดดีลใหญ่ ทุ่มซื้อหุ้น “V Square Clinic” หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางของเมืองไทย
วันที่ 8 ธ.ค. 66 นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” โดยกล่าวถึงเรื่องการลงทุนในขณะนี้ของ MASTER โดยย้ำว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไป ตอนนี้ต้องการเป็นรองเจ้าอาวาส เราเข้าไปลงทุนเพื่อช่วยในเรื่องการเติบโต โดยเรามองออกว่าใครเป็นตัวจริง ซึ่งการอยู่วงการเดียวกันจะรู้ สำหรับการลงทุน MASTER ที่ 40% ของในแต่ละดีลนั้น ก็เพื่อเป็นการลงทุนช่วยธุรกิจในการเติบโต ทำให้ระบบแข็งแกร่ง ส่วนการลงทุนใน บริษัท บีอีคิว จำกัด ที่ 35% นั้นก็เพราะว่าทางบีอีคิวมีหุ้นอยู่ 3 คน ถ้า MASTER ซื้อหุ้นมากกว่านี้ก็จะกลายเป็นเบอร์ 1 ซึ่งไม่ใช่นโยบายของ MASTER ซึ่งเราต้องการให้เกียรติพาทเนอร์
นพ.ระวีวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยสรุปแล้วกิจการที่เข้าไปลงทุน 6 ดีลในตอนนี้ไม่ได้ทำในวันเดียว แต่ละดีลมีการดีไซน์เอาไว้แบบแตกต่างกันในเชิงกลยุทธ์ ซึ่งล่าสุดก็คือดีลของ บริษัท วี เอ็กคลูซีฟ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการคลินิกเสริมความงามภายใต้ชื่อ วี สแควร์ คลินิก (V Square Clinic) ต้องบอกว่าบริษัทนี้ใช้ยาเยอะที่สุดในประเทศที่เกี่ยวกับโบท็อกซ์ และ มีสาขาถึง 25 คลินิก ที่เน้นให้แพทย์มาฉีดเอง และตนเองก็ได้มีการทดลองฉีดด้วย อีกทั้งยังมีการจัดการที่มีความโปร่งใสก่อนฉีด จึงทำให้คนมาใช้บริการเกิดความมั่นใจ
หลังการทำดีลทั้งหมด 6 ดีลนี้ MASTER ต้องการเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางของเมืองไทยให้ได้ ไม่ใช่แค่ทำศัลยกรรม ส่วนในเรื่องเงินทุนนั้นในตอนนี้ยังใช้เงิน IPO ไม่หมด และเหลืออีกประมาณ 300 ล้านบาท ยังไม่ได้มีการกู้ยืม หรือเครื่องมืออื่นในตลาดหุ้น ซึ่งผลตอบแทนจะได้ค่อนข้างสูง สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น อาจจะมีบ้างเล็กน้อยที่ได้เกิดกับธุรกิจ ซึ่งจะมีการรวบรวมข้อมูลอีกครั้งในต้นปี โดยออกมาชี้แจงอีกครั้ง
สำหรับแต่ละดีลมักจะทำที่ใช้เวลาประมาน 3 เดือนในการเอาเข้าระบบทุกอย่าง ดังนั้นในไตรมาส 1 ก็จะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ อย่าง V Square Clinic ก็เข้าใจว่าหลังไตรมาส 1 น่าจะเริ่มเข้ามาแล้ว สำหรับ 6 ดีลที่เกิดขึ้นนี้ในแง่ของโปรไฟล์ถือว่ามีกำไรอยู่แล้ว ถ้าดีลเสร็จสิ้นก็จะรับรู้กำไรในแต่ละไตรมาสแน่นอน ซึ่งการเติบโตแบบนี้ไม่ได้ต้องการแบบก้าวกระโดด แต่เป็นเรื่องบังเอิญของจังหวะที่เข้าซื้อ เนื่องจาก MASTER มีความพร้อมพอดี โดยแต่ละแบรนด์ที่ MASTER เข้าไปลงทุนนั้นทุกแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้ย้ำว่าที่ MASTER เข้าไปลงทุนนั้นจะต้องเป็นธุรกิจมีกำไร และในปีหน้าจะมีดีลอื่นๆอีกในหลังช่วงปีใหม่ และจะเริ่มเห็นว่า MASTER เติบโตขึ้นอีก และจะเข้าไปช่วยสร้างในแต่ธุรกิจที่เข้าไปลงทุกช่วยเหลือเขาด้วย.