ORI จ่อออกหุ้นกู้ 2 รุ่น ชูดอกเบี้ยสูง 4.85% ขายทั่วไป-สถาบัน เปิดจอง ม.ค. 67
ORI เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่แก่ผู้ลงทุนทั่วไป 2 รุ่น ในอัตราดอกเบี้ย 4.25-4.85% ต่อปี คาดเปิดเสนอขายวันที่ 11-12 และ 15 ม.ค. 67 ขณะที่ “ทริสเรทติ้ง” ในระดับ “BBB+” สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อนำไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะสั้น และ/หรือ ซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาโครงการ และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
โดยหุ้นกู้จะเสนอขายทั้งหมดจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 7 เดือน 16 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย (4.75-4.85)% ต่อปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 11 – 12 และ 15 มกราคม 2567 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ BBB+ แนวโน้มคงที่
อย่างไรก็ดีสำหรับปี 2567 แผนธุรกิจยังคงต่อยอดจากปี 2566 โดยจะเห็นภาพขัดเจนขึ้นในการกระจายการลงทุนไปทั่วประเทศ ในรูปแบบ multiverse ซึ่งสามารถพัฒนาโครงการในรูปแบบที่หลากหลาย รองรับความต้องการได้ทุกรูปแบบ พร้อมกับการบริการที่ครบวงจรภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” สร้างการเติบโตและดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด พัฒนาเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้กลายเป็น Well-Being Lifetime Company ด้วยการขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก อาทิ
1.การขยายสินค้าและบริการที่หลากหลายให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (Nationwide serve)
2.การขยายจักรวาลธุรกิจใหม่ให้มีเส้นทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Multiverse Expansion) มุ่งพัฒนาชีวิตที่ดีขึ้น (Better Lifetime) ต่อยอดจากแผน Origin Multiverse ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้มีเส้นทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
3.การดูแลสังคม (Social Attention) ร่วมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น (Better Society)
นอกจากนี้สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนสะสมในปี 2566 กลุ่มบริษัทสามารถสร้างยอดขายรวม (Presale) ได้ประมาณ 36,937 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 26 โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณร้อยละ 77 และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรประมาณ ร้อยละ 23
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2566 มูลค่ารวมประมาณ 47,024 ล้านบาท โดยเป็นยอดจากทั้งโครงการที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กิจการร่วมค้าและโครงการภายใต้กิจการร่วมค้าที่จะทยอยรับรู้ในปี 2566 จำนวนประมาณ 10,699 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นแล้วใน 9 เดือนสะสมในปี 2566 จะส่งผลให้กลุ่มบริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์รออยู่ร้อยละ 88 ของเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2566 จำนวน 30,000 ล้านบาท บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปี 2566 จะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายได้ ดังนั้น บริษัทเชื่อมั่นว่าหุ้นกู้ ORI ที่จะเสนอขายในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ และคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ส่วนผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 7 แห่ง ดังต่อไปนี้
1.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือ ผ่าน Money Connect by Krungthai (https://moneyconnect.krungthai.com/)
2.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest
3.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ไทย โทร. 02-626-7777 หรือ จองซื้อผ่าน Mobile application – CIMB Thai Digital Banking
4.บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
5.บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
6.บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675
7.บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-6606624