“โกลเบล็ก” มอง SET พักตัว แนะลงทุนหุ้นเข้า SET50-SET100
“บล.โกลเบล็ก” ชี้หุ้นไทยสัปดาห์นี้พักตัวไร้ปัจจัยใหม่หนุน หลังนักลงทุนลดคาดการณ์ เฟด ปรับดอกเบี้ยปีหน้า จับตารายงานตัวเลขเศรษฐกิจช่วงก่อนปีใหม่ ให้กรอบดัชนี 1,380-1,420 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนดักหุ้นเข้าคำนวณ SET50-SET100 รอบครึ่งแรกปี 67
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสพักตัวตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด หลัง Rebound ขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพฤศจิกายน ของสหรัฐในวันศุกร์เพื่อประเมินทิศทางเงินเฟ้อ อีกทั้งให้กรอบดัชนีที่ 1,380 -1,420 จุด
โดยนักลงทุนลดคาดการณ์ว่า (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าหลังจาก นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธาน (เฟด) สาขานิวยอร์กกล่าวว่ายังไม่ได้ทำการหารือกันในขณะนี้เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยสำนักงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐจะชะลอตัวลงเหลือ 1.5% ในปี 2567 และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์เฉลี่ย 3.9%
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รายงานสรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 ธันวาคม 2566 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 75,218.10 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 4,547.19 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 121,281.26 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 191,952.17 ล้านบาท
อีกทั้งยังมีปัจจัยที่จะมีผลกับตลาดหุ้นไทย อาทิ สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์, สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังและภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค วันที่ 28 ธันวาคม 2566
รวมไปถึง ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยและปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันนี้ 19 ธันวาคม 2566 ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สหรัฐฯรายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพฤศจิกายน, วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR), เดือนธันวาคม อียู รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนตุลาคม, สหรัฐฯ รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3/2566, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤศจิกายน และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 21 พฤศจิกายน รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP ไตรมาส 3/2566, ดัชนีการผลิตเดือนธันวาคม และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี SET50 – SET100 ในรอบครึ่งแรกปี 2567 โดยหุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 อาทิ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE และหุ้นที่จะเข้าคำนวณ SET100 คือ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS, บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC, บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M, บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF, บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE, บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB, บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN, และบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA และระวังแรงขายหุ้นที่จะออกจากการคำนวณดัชนี SET50 อาทิ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR
ส่วน SET100 คือ บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE, บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP, บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC, บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI, บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และ บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM
นอกจากนี้ทิศทางการลงทุนในทองคำนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ประเมินราคาทองสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์หนุนทองคำทรงตัวระดับสูง ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำมีปัจจัยสนับสนุน คือ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯและดัชนีดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ราคาทองคำอาจเคลื่อนตัวในกรอบ 2,015-2,045 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้