ธ.ก.ส.มอบของขวัญปีใหม่คืนดอกเบี้ยเกษตรกรตามโครงการ”ชำระดีมีคืน”
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.58 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.มอบของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องเกษตรกร ประกอบด้วย โครงการ "ชำระดี มีคืน" โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับพี่น้องเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ที่มาชำระหนี้ธนาคารตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.58 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.มอบของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องเกษตรกร ประกอบด้วย โครงการ “ชำระดี มีคืน” โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับพี่น้องเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ที่มาชำระหนี้ธนาคารตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559
โดยคืนดอกเบี้ยร้อยละ 3-5 ตามชั้นของลูกค้า โดยลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ที่ดี 3 ปี ติดต่อกันจะได้รับคืนดอกเบี้ยคืน 5% ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ที่ดี 2 ปี ติดต่อกันขึ้นไปจะได้รับดอกเบี้ยคืน 4% และสำหรับลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ได้ตามกำหนดติดต่อกัน 1 ปี หรือเป็นลูกค้าใหม่จะได้รับดอกเบี้ยคืน 3% ซึ่งคาดว่าเกษตรกรลูกค้าจะได้รับประโยชน์ 3.53 ล้านครัวเรือน
สำหรับสถาบันเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร 64 กลุ่มและสหกรณ์การเกษตร 1,385 แห่ง ที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ ชั้นที่ 1-3 ได้รับคืนดอกเบี้ย 5% ที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับชั้นที่ 4-6 ได้รับคืนดอกเบี้ย 4% และที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับชั้นที่ 7-9 ได้รับคืนดอกเบี้ย 3% ทั้งนี้ ประมาณการดอกเบี้ยที่จะคืนให้เกษตรกรลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท
ส่วนอีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย โดย ธ.ก.ส.มุ่งเน้นให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชนที่เป็นลูกค้าที่ดีและมีความประสงค์จะปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่การเกษตรที่มีความยั่งยืน รวม 100,000 ราย ได้รับสินเชื่อเป็นเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รักษาศิลปวัฒนธรรม พลังงานสะอาด ผลิตอาหารปลอดภัย การเกษตรรูปแบบใหม่ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบผ่านตัวกลางที่เหมาะสมแก่เกษตรกรรายย่อยและผู้ยากจน
ซึ่งมีตัวอย่างรูปแบบการผลิตของเกษตรกร สถาบันเกษตรกรที่ดำเนินการแล้วประสบความสำเร็จ อาทิ การทำเกษตรอินทรีย์และการผลิตอาหารปลอดภัยรูปแบบต่างๆ ตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง การทำเกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฏีใหม่ การปลูกพืชตระกูลถั่วหรือพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง การผลิตเมล็ดพันธุ์ตามมาตรฐาน GAP และ GMP การปลูกพืชเพื่อผลิตพลังงานทดแทนแบบครบวงจร การผลิตไม้ดอก ไม้ประดับมูลค่าสูง การส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์และสัตว์ปีกตามมาตรฐาน GAP สำหรับเกษตรกรรายย่อย การส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์แบบมีพันธะสัญญา การส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็วเพื่ออุตสาหกรรม การผลิตพลังงานทดแทน (พลังงานชีวภาพ/พลังงานชีวมวล/พลังงานน้ำ) ในชุมชน การส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในระดับชุมชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม การอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เป็นต้น โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อทั้งสิ้น รวม 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% นาน 7 ปี ระยะเวลาการชำระคืนตามศักยภาพการผลิตของลูกค้าแต่ไม่เกิน 10 ปี เริ่มจ่ายสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2561
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการฝาก-ถอนเงินสดผ่านเครื่องอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านการทำธุรกรรมทางการเงินให้แก่เกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ถึง วันที่ 3 มกราคม 2559 โดยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมรายการถอนเงินสดภายใน ธ.ก.ส.ข้ามเขตผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) และยกเว้นค่าธรรมเนียมฝากเงินสดข้ามเขตภายใน ธ.ก.ส. ผ่านเครื่องรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) ด้วย