พาราสาวะถี
ระหว่างรอทำคลอดโครงการหลักอย่างดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะกลายเป็นหมันหรือไม่ นโยบายแก้หนี้ทั้งระบบของรัฐบาล ถือเป็นความท้าทายปลายทางจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ขนาดไหน
ระหว่างรอทำคลอดโครงการหลักอย่างดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะกลายเป็นหมันหรือไม่ นโยบายแก้หนี้ทั้งระบบของรัฐบาล ถือเป็นความท้าทายปลายทางจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ขนาดไหน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้แสดงท่าที และความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าแล้ว ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาแทบทุกรัฐบาลประกาศว่าจะดำเนินการแก้ไข ช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาเรื่องหนี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงแค่การขายฝัน
ฟังความเห็นของ อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แต่นโยบายแก้หนี้ทั้งระบบของรัฐบาล อาจจะช่วยทำให้เกิดความเข้าใจ มองเห็นภาพได้ว่า สิ่งที่ทำจะเป็นอย่างไร และช่วยอะไรได้บ้าง มาตรการแก้ไขหนี้สินนั้นต้องกระจายรายได้และกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้เป็นธรรม สร้างโอกาสการทำงานด้วยรายได้สูงให้ประชาชน ธุรกิจอุตสาหกรรมต้องสามารถเพิ่มมูลค่าด้วยความรู้และนวัตกรรม แปรรูปผลิตภัณฑ์ให้มีราคาและมูลค่าสูงขึ้น
ความเป็นจริงมาตรการแก้หนี้ของรัฐบาลคงยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะแก้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ทิศทางดอกเบี้ย ความสามารถในการหารายได้ของลูกหนี้ด้วย ซึ่งอนุสรณ์มองว่า หากมีการปรับขึ้นค่าแรงค่าจ้างอย่างเหมาะสม ปัญหาหนี้สินจะเบาลงทันที หากมีนโยบายให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่านี้จะแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะไม่กระตุ้นให้ก่อหนี้เกินตัว ไม่มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินจากการก่อหนี้ครัวเรือน แต่ปัญหาอาจเกิดจากการขยายการลงทุนด้วยการก่อหนี้ของธุรกิจเอกชนมากกว่า
ถ้ารัฐบาลทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้เต็มศักยภาพในระดับอย่างน้อย 5-6% ในปีหน้า น่าจะทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีที่สูงกว่า 90% ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 80% ได้ หากเศรษฐกิจปีถัด ๆ ไปขยายตัวเต็มศักยภาพอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ระดับหนี้ครัวเรือนลงมาอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจมหภาค นี่อาจจะเป็นการฉายภาพแบบนักวิชาการ แต่หากพูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่าย การแก้หนี้ของรัฐบาลคงทำไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ได้บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนหนึ่ง บนข้อเท็จจริงที่ว่าประชาชนยังหวังพึ่งรัฐอยู่ โดยเฉพาะคนที่เป็นหนี้จากที่หมดหวังเมื่อมีมาตรการนี้ก็ยังพอมีความหวัง
อย่างไรก็ตาม ผลจากการที่ขณะนี้เข้าสู่ช่วงแห่งเทศกาลเฉลิมฉลอง คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของเพื่อไทยและรัฐบาล กำลังเฝ้าจับตาดูว่า มาตรการที่ออกไปทั้งการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ในพื้นที่ 4 จังหวัดและ 1 อำเภอคือสมุย สุราษฎร์ธานี จะกระตุ้นให้เม็ดเงินสะพัดได้ขนาดไหน เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวทั้งจากคนไทยและต่างชาติจะคึกคักมากแค่ไหน จะได้เป็นตัวชี้วัด แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเดินหน้าจัดกิจกรรมสนับสนุนเพื่อเดินหน้ากันอย่างเต็มสูบ
การขับเคลื่อนในลักษณะนี้บทบาทสำคัญก็จะไปอยู่ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ อย่างที่รู้กัน แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั่งเป็นรองประธานในคณะกรรมการดังกล่าว โดยในระยะหลังก็จะได้เห็นบทบาทของอุ๊งอิ๊งต่อการใช้หัวโขนดังกล่าวดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายเสี้ยมอาจขยายผลว่านี่เป็นการเตรียมการเพื่อก้าวขึ้นเป็นนายกฯ คนต่อไป แต่สำหรับ เศรษฐา ทวีสิน นี่คือตัวช่วยในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพราะถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและเข้าใจในเรื่องที่ทำได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าแทบจะทุกเวทีที่มีการพูดถึงซอฟต์พาวเวอร์ อุ๊งอิ๊งมักจะได้รับเชิญไปพูด ซึ่งหากฟังกันโดยปราศจากอคติ หรือมองในมิติทางการเมือง ก็จะเห็นว่าความคิดความอ่าน ความเข้าใจต่อเรื่องนี้ของหัวหน้าพรรคแกนนำรัฐบาลนั้นไม่ธรรมดา สิ่งที่ได้ใจภาคเอกชนเป็นอย่างยิ่ง คงเป็นกรณีที่ย้ำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ เป็นการทำร่วมกับเอกชน เพราะรัฐบาลไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในทุกเรื่อง แต่ต้องการผู้เชี่ยวชาญจริงจากภาคเอกชนเข้ามาช่วย ในส่วนของรัฐบาลคือผู้อำนวยความสะดวก
แน่นอนว่า การได้แบ็คอัพที่เข้าใจมาอำนวยความสะดวก มาส่งเสริมเอกชน การจับมือกันแบบนี้ ภาครัฐย่อมจะได้ผู้ที่รู้จริง มีความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดพลังขึ้นในการขับเคลื่อนประเทศ อันจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะนำพาไปสู้เป้าหมายของรัฐบาลคือ หารายได้เข้าประเทศให้ได้มากที่สุด จะว่าไปเพื่อไทยกับเรื่องนี้ถือเป็นการต่อยอดการทำงานตั้งแต่ในอดีต ยุคไทยรักไทยที่มีการทำศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ TCDC เป็นสถานที่ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับวัสดุ เนื้อสัมผัสต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานออกแบบทั้งหมด ทำให้นักออกแบบได้สัมผัสวัสดุจริงทำให้เกิดไอเดียในการออกแบบ
นอกจากนั้น ยังมี TK Park ซึ่งเน้นเรื่องของหนังสือและการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โครงการ OTOP โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งสำหรับยุคนั้น ไม่ใช่แค่รู้และเข้าใจในงานที่ทำ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังเข้าใจกลเกมทางการเมือง ไม่ว่าจะเสนออะไรย่อมหนีไม่พ้นเสียงวิจารณ์ เหมือนกรณีเรื่องการสาดน้ำสงกรานต์ทั้งเดือนเมษายน ที่เจ้าตัวอธิบายว่าไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่รัฐบาลจะปักหมุดการเล่นน้ำสงกรานต์ที่มีประเพณีต่างกันหลายพื้นที่ เล่นสาดน้ำต่างวันกัน เมื่อร้อยเรียงแล้วโปรโมตโฆษณา นักท่องเที่ยวก็จะได้รู้ว่าไม่ต้องเข้ามาแค่วันที่ 13-15 เมษายน สามารถเข้ามาได้ทั้งเดือน
เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่การสื่อสาร และทำความเข้าใจ ซึ่งหากติดตามลูกสาวคนเล็กของ ทักษิณ ชินวัตร จะเห็นว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ เอาแค่เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ที่เจ้าตัวชี้ว่าคนส่วนใหญ่กำลังติดกับการถามว่าซอฟต์พาวเวอร์คืออะไร อยากจะบอกว่า การนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์คือสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุด ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่เรื่องที่มีหลักสูตรสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ในหนึ่งหรือสองปี แต่เมื่อเริ่มทำแล้วรัฐบาลจะไม่หยุด จะเห็นดอกผลของมันในอนาคตข้างหน้า จิ๊กซอว์ที่หายไปของซอฟต์พาวเวอร์ก็คือเยาวชน ตนอยากผลักดันให้มีเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น นี่ไงที่บอกว่าเพื่อไทยยุคใหม่เปลี่ยนเพื่อคนรุ่นใหม่จริง ๆ