“ตุลาการผู้แถลงคดี” เห็นควรยกฟ้องคดี “ล้มประมูลท่อน้ำ EEC” หลักฐาน EASTW ไม่มีมูล

“ตุลาการผู้แถลงคดี” เสนอให้ยกฟ้องคดี EASTW ฟ้องร้องคณะกรรมการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี พร้อมด้วยกรมธนารักษ์ ระบุรับฟังไม่ได้ว่าการยกเลิกไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขีดเส้นตาย “อีสท์วอเตอร์” ส่งมอบท่อน้ำ EEC ภายใน 31 ธ.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 1746/2564 ระหว่างบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW ที่เป็นผู้ฟ้องคดี กับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ที่เป็นผู้ร้องสอด และผู้ถูกฟ้องคดีประกอบด้วยคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1, กรมธนารักษ์ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และคณะกรรมการที่ราชพัสดุเป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3

โดยการนัดพิจารณาคดีมีขึ้นในวันที่ 13 ธ.ค.66 เป็นการพิจารณาคดีเป็นครั้งแรก โดยการพิจารณาคดีครั้งนี้มีผู้มาศาล คือ นายอภิรักษ์ มานีกุล ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากอีสท์วอเตอร์ รวมถึง นายอนันต์ รัตนธนาวัฒน์ และนายธีรภัทร จันทร์ภิวัฒน์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากอีสท์วอเตอร์

ขณะที่ นางสาวกฤตาภรณ์ เกษร และ นายกฤษฎา บุตรเนียม เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด

ส่วน นางสาวศุภลักษณ์ ศักดิ์เศรษฐ์ และ นางสาวอรทัย ชัยชนะ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากกรมธนารักษ์

สำหรับผู้รับมอบอำนาจจากอีสท์วอเตอร์ได้ยื่นคำแถลงเป็นหนังสือลงวันที่ 13 ธ.ค.66 ในขณะที่คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ไม่มาศาลและไม่ยื่นคำแถลงเป็นหนังสือ

ทั้งนี้ ตุลาการของสำนวนได้สรุปข้อเท็จจริงและประเด็นแห่งคดีให้คู่กรณีที่มาศาลรับฟัง โดยผู้ฟ้องคดีแถลงด้วยวาจา

ส่วนตุลาการผู้แถลงคดีได้พิจารณาคำแถลงของอีสท์วอเตอร์แล้วเห็นว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำแถลงการณ์ด้วยวาจาที่จะแถลงต่อองค์คณะ และได้แถลงการณ์ด้วยวาจาต่อองค์คณะเพื่อประกอบการพิจารณาคำพิพากษา

นอกจากนี้ ตุลาการผู้แถลงคดีได้แถลงสรุปถึงเหตุผลที่ควรยกฟ้อง โดยเห็นว่าคณะกรรมการคัดเลือกฯ รับฟังไม่ได้ว่าการยกเลิกไม่ชอบด้วยกฎหมาย

รวมทั้งระยะเวลาการประกาศเชิญชวน รอบ 2 น้อยกว่า 15 วัน ไม่เป็นสาระสำคัญให้การคัดเลือกไม่ชอบ เพราะผู้ร่วมประมูลทุกรายยื่นซองเอกสารทัน

ส่วนการที่คณะกรรมการที่ราชพัสดุเห็นชอบให้บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผ่านการคัดเลือกไม่ใช่การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

รวมถึงการแบ่งค่าแรกเข้าเป็น 2 งวด เป็นเพราะอีสท์วอเตอร์ไม่ยอมส่งมอบพื้นที่ ดังนั้นข้ออ้างของอีสท์วอเตอร์จึงฟังไม่ขึ้น ขณะที่ประเด็นอื่นไม่มีผลต่อการพิจารณา จึงทำให้ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นควรยกฟ้อง

สำหรับการส่งมอบทรัพย์สิน และท่อส่งน้ำระหว่าง อีสท์วอเตอร์ ให้กับกรมธนารักษ์ มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาดำเนินการ ก่อนที่กรมธนารักษ์จะส่งมอบให้กับ วงษ์สยาม ซึ่งชนะการประมูลบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก

รายงานข่าวระบุว่า ปัญหาการส่งมอบทรัพย์สินท่อส่งน้ำในภาคตะวันออกจาก อีสท์วอเตอร์ ให้กับกรมธนารักษ์ มีประเด็นที่ต้องรีบนำเสนอขอมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นการเร่งด่วนก่อน วันที่ 31 ธ.ค.2566 ประกอบด้วย

1.จะต้องมีการส่งมอบทรัพย์สินคืนกรมธนารักษ์ภายในวันที่ 31 ธ.ค.66 เวลา 24.00 น. และกรมธนารักษ์จะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด ในวันที่ 1 ม.ค.67 เวลา 00.01 น.

2.กรณีที่อีสท์วอเตอร์ได้มีการส่งมอบแล้ว กรมชลประทานจำเป็นต้องขอมติ ครม.ก่อน ส่งมอบให้กับบริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด เพื่อเปลี่ยนการจัดสรรน้ำจากอีสท์วอเตอร์ เพื่อให้บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด บริหารส่งน้ำได้ต่อเนื่อง เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมและอุปโภคบริโภค

ทั้งนี้ หากมีการส่งมอบท่อส่งน้ำแล้ว กรมชลประทาน ยังไม่สามารถจัดสรรน้ำให้ได้ เพราะต้องขอมติ ครม.รองรับข้อกฎหมายของกรมชลประทาน อีกครั้งเพื่อทำให้การบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ในประเด็นที่ตุลาการผู้แถลงคดี เห็นควรให้ยกฟ้องในคดีที่อีสท์วอเตอร์ ฟ้องกรมธนารักษ์ จะมีการอ่านคำพิพากษาในวันที่ 28 ธ.ค.66

Back to top button