TGE พุ่งแรง 18% “ออลไทม์ไฮ” มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 1 พันล้าน
TGE พุ่งแรง 18% “ออลไทม์ไฮ” วางเป้ารายได้ปีนี้ 1 พันล้านบาท เร่งแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ดันกำลังการผลิตปีหน้าเพิ่มเท่าตัวเป็น 60-70 เมกะวัตต์ และปี 68 ทะลุ 100 เมกะวัตต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25 ธ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ณ เวลา 16:01 น. อยู่ที่ระดับ 2.46 บาท บวก 0.38 บาท หรือ 18.27% สูงสุดที่ระดับ 2.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62.92 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงและทำออลไทม์ไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565
โดยก่อนนหน้านี้นายสืบตระกูล บินเทพ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ TGE เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าที่ 951-1,000 ล้านบาท หลังจากในช่วง 9 เดือนของปีนี้ทำได้แล้ว 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 938 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตจะมาจากอัตรา FiT ที่เพิ่มขึ้น ปริมาณการขายไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนให้ลดลง ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าปี 2567 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 1,000-1,100 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 คาดว่ารายได้จะเพิ่มเป็น 1,200-1,300 ล้านบาท ส่วนปี 2569 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,500-2,600 ล้านบาท และในปี 2570 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 3,500-3,600 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ในด้านกำลังการผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 30 เมกะวัตต์ (MW) คาดว่าปี 2567 จะเพิ่มเท่าตัวเป็น 60-70 เมกะวัตต์ มาจากโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ในแผน รวมทั้งบริษัทมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักรผลิตไฟฟ้าและบริหารจัดการต้นทุน ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 คาดว่ายังคงใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2566 เนื่องจากยังไม่มีโครงการใหม่ที่ COD เข้ามาเพิ่ม แต่จะทยอย COD ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
สำหรับความคืบหน้าโครงการ WTE Power Plant ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 39.9 เมกะวัตต์ หลังจากที่เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PPA กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้วจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า TES-CPN ชุมพร กำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ มีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 4 เมกะวัตต์, โครงการโรงไฟฟ้า TES-SKW สระแก้ว 8 เมกะวัตต์ มีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 6 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้า TES-RBR ราชบุรี 8 เมกะวัตต์ มีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 6 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะ COD ภายในไตรมาส 4/2568
ส่วนอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า TES-TCN สมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ มีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้า TES-CNT ชัยนาท กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ มีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเซ็นสัญญา PPA เร็ว ๆ นี้ หลังจากนั้นจะจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างและคาดว่า TES-CNT ชัยนาท จะ COD ภายในไตรมาส 4/2568 และ TES-TCN สมุทรสาคร จะ COD ในช่วงไตรมาส 4/2569
นอกจากนี้ คาดว่าจะมีความคืบหน้าการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน รวมถึงการเข้าทำสัญญา PPAเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง รวมถึงเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่อีก 3-5 โครงการ ดังนั้นหากโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา COD ครบ 7 โครงการ บวกกับโครงการที่ COD แล้วในปัจจุบันอีก 3 โครงการ รวมเป็น 10 โครงการ จะทำให้บริษัทมีรายได้ที่เติบโตขึ้นตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน