TGE ปิดพุ่ง 15% รับ IFA ชี้บริหาร 2 โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ เหมาะสม-แนะผู้ถือหุ้นไฟเขียว
TGE ปิดพุ่ง 15% ขานรับ IFA ชี้เข้าบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ 2 แห่ง รวม 7 เมกะวัตต์ต้นปี 67 เหมาะสม แนะผู้ถือหุ้นไฟเขียว 17 ม.ค. 67
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(26 ธ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 2.88 บาท บวก 0.38 บาท หรือ 15.20% สูงสุดที่ระดับ 2.88 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.52 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 156.75 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวแรง 2 วันติด โดยเทียบตั้งแต่ราคาหุ้นยืนที่ระดับ 2.08 บาท เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66 จนถึงล่าสุดปิดที่ระดับ 2.88 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 38.46%
โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการเข้าทำสัญญาบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ กับบริษัท ท่าฉาง ไบโอแก๊ส จำกัด (TBG) โดยมีระยะเวลาของสัญญา 3 เดือน นับจากวันที่เข้าทำสัญญา และเตรียมเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 17 ม.ค. 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทำสัญญาบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพกับ TBG โดยมีระยะเวลาของสัญญา 4 ปี 9 เดือน นับจากวันที่เข้าทำสัญญา โดยมีมติแต่งตั้งบริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
ทั้งนี้การเข้าทำสัญญาบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ กับ TBG เพื่อให้เป็นประโยชน์กับ TGE ในการขยายธุรกิจการให้บริการ บริหารจัดการ โรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ขนาดกำลังการผลิต 2.8 เมกะวัตต์ (MW) และ 4.2 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ TGE ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการโรงไฟฟ้า ใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิง เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดย TGE จะได้รับรายได้ในสัดส่วน 50% จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตลอดอายุสัญญา 4 ปี 9 เดือน จาก TBG ประเมินมูลค่าผลตอบแทนอยู่ที่ 332.40 ล้านบาท ซึ่งรวมกับมูลค่าผลตอบแทนจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ระยะเวลา 3 เดือนแรกก่อนเข้าทำสัญญาระยะยาวดังกล่าวอีก 17.50 ล้านบาท จะทำให้มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพประมาณ 349.90 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567–31 ธ.ค. 2571 ทั้งนี้ TGE ไม่มีภาระหน้าที่ในการจัดหาแหล่งเงินทุนในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแต่อย่างใด
โดยล่าสุดวันนี้(26ธ.ค.66) บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ได้วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของการเข้าทำรายการ และนโยบายในการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งการวิเคราะห์ความสามารถในการดำเนินงานโดยพิจารณาข้อมูลของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า การเข้าทำธุรกรรมรับจ้างบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โครงการโรงไฟฟ้าท่าฉาง 1และโครงการโรงไฟฟ้าท่าฉาง 2 ในครั้งนี้ มีความสมเหตุสมผลในการเข้าทำรายการ จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามแผนการที่จะขยายขอบเขตของการประกอบธุรกิจให้กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานและมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และจากการที่บริษัทมีความพร้อมทางด้านบุคลากร การให้บริการดังกล่าวจะเป็นการใช้ประโยชน์จากพนักงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยนำความรู้ความสามารถที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้ให้แก่บริษัท รวมทั้งจะเป็นการพัฒนาและช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการบริหารและจัดการโครงการไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพให้แก่พนักงานของบริษัท ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ การให้บริการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มประวัติและผลงาน (Track Record) ที่สำคัญแก่บริษัท และช่วยเปิดโอกาสให้แก่บริษัทในการให้บริการรับจ้างบริหารจัดการโรงไฟฟ้าให้แก่ลูกค้ารายอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ทำการพิจารณาความเป็นธรรมของราคาสำหรับการเข้าทำรายการรับจ้างบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในครั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระพิจารณาประมาณการทางการเงิน สมมติฐานและข้อมูลต่าง ๆ โดยอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับจากฝ่ายบริหารของบริษัท การสัมภาษณ์ฝ่ายบริหารของบริษัทและฝ่ายบริหารของ TCP และ TBG รวมถึงฝ่ายปฏิบัติการของ TBEC ข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณชนทั่วไป รวมถึงเอกสารและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งจากประมาณการทางการเงินที่ปรึกษาทางการเงินอิสระพบว่าบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิประมาณร้อยละ 38.89 – 46.05 ซึ่งหากเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในอดีตของบริษัทย้อนหลัง 3 ปีซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณร้อยละ 22.65– 26.42 และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 33.37 – 35.66 โดยจะเห็นได้ว่าอัตรากำไรสุทธิจากประมาณการทางการเงิน
สำหรับรายการรับจ้างบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในครั้งนี้มากกว่าอัตรากำไรสุทธิในอดีตย้อนหลัง 3 ปี ที่บริษัทสามารถดำเนินการได้ ซึ่งอัตรากำไรสุทธิจากประมาณการทางการเงินสำหรับรายการรับจ้างบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในครั้งนี้สูงกว่าอัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นในอดีตย้อนหลัง 3 ปีที่ประมาณร้อยละ 12.47 – 23.40และร้อยละ 3.23 – 13.26 ดังนั้น จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระพิจารณาแล้วเห็นว่าค่าตอบแทนสำหรับการเข้าทำรายการรับจ้างบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในครั้งนี้มีความสมเหตุสมผล ในส่วนของเงื่อนไขที่สำคัญของการเข้าทำรายการในครั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่ามีความสมเหตุสมผล โดยมิได้มีเงื่อนไขรายการใดที่ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์น้อยกว่าคู่สัญญา
ดังนั้นเมื่อพิจารณาเรื่องประโยชน์ ข้อดี ข้อด้อย และความเสี่ยง รวมถึงความเป็นธรรมของราคาและความเหมาะสมของเงื่อนไขการทำรายการที่มีความสมเหตุสมผลแล้ว ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่ารายการเกี่ยวโยงกันในครั้งนี้สมเหตุสมผลและเกิดประโยชน์แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยรวมผู้ถือหุ้นของบริษัทควรมีมติอนุมัติรายการเกี่ยวโยงดังกล่าว