โบรกชี้ “กลุ่มค้าปลีก” ปี 67 ฟื้นตัวช้า เซ่นปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง
โบรกประเมินปี 67 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายของกลุ่มค้าปลีก แต่ยังมองว่ากลุ่มค้าปลีกก่อสร้างจะเติบโตเร็วกว่ากลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือย อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำให้เลือกผู้ที่มียอดขายที่แข็งแกร่งและโครงสร้างด้านต้นทุนที่ดีและมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ แนะ CPN-CPALL-ILM-GLOBAL
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่าปี 2567 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายของกลุ่มผู้ค้าปลีก คาดการณ์ว่าใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะยังคงชะลอตัวเนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับการใช้จ่ายที่น่าจะกระจุกตัวอยู่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ในขณะที่การแข่งขันระหว่างผู้ค้าปลีกอาจกลบผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่และอัตราดอกเบี้ยที่พีค
นอกจากนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรหลักของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกที่ให้คำแนะนำจะเติบโต 17% ในปี 2567 เทียบกับ 12% ในปี 2566 แต่การเติบโตดังกล่าวจะกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้ค้าปลีกและค้าปลีกก่อสร้าง ซึ่งฐานกำไรปี 2566 ของธุรกิจค้าปลีกก่อสร้างอยู่ในระดับต่ำอย่างไรก็ตามการประมาณการณ์อาจคาดเคลื่อนหากการใช้จ่ายผู้บริโภคไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์
โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรจากกลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคที่ 20% ในปี 2567 แม้นักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์กำไรของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)หรือCPAXT เพิ่มขึ้นจาก 12% ในปี 2566 หนุนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงและการเติบโตของค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่ชะลอตัวลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังจำกัด การแข่งขันยังคงสูงและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโปรโมชั่น รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายยังคงมีอยู่โดยมองว่าการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ในปี 2567 เทียบกับ 4% ในปี 2566 และคาดการณ์การลงทุนของ makroในแพลตฟอร์ม O2O การรีไฟแนนซ์และสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนของ Lotus’s จากอัตรากำไรขั้นต้นปี2566 ที่ต่ำมากน่าจะหนุนการเติบโตของกำไรในปี 2567
นอกจากนี้คาดว่าจะเห็นผลการดำเนินงานของ 7-Eleven ที่แข็งแกร่งสำหรับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)หรือ CPALLและอัตรากำไรที่สูงขึ้นในธุรกิจการผลิตของ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BJC จะหนุนการเติบโตของกำไรของกลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค
ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มค้าปลีกก่อสร้างจะโตเร็วกว่ากลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยในปี 2567และคาดการณ์การเติบโตของกำไรปี 2567 สำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยที่นักวิเคราะห์ให้คำแนะนำน่าจะต่ำกว่าการเติบโตของกำไรในปี 2566 เนื่องจากการเติบโตของกำไรปี 2566 ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ถูกกักไว้ ซึ่งทะลักเข้ามาในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูงและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว
สำหรับปี 2567 คาดว่าการใช้จ่ายในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง จะกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งมาตรการกระตุ้นของภาครัฐจะไม่น่ามีผลบวกเท่ารอบก่อนๆ และการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวจะชะลอตัวลง ดังนั้นจึงคาดการณ์การเติบโตของกำไรที่กลับมาเป็นปกติมากขึ้นในกลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยที่ 13% ในทางตรงกันข้าม คาดว่ากำไรจากธุรกิจค้าปลีกก่อสร้างจะเติบโต 16% ในปี 2567 จากฐานปี 2566 ที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตามแม้นักวิเคราะห์คาดการณ์การเติบโตของกำไรรวมของกลุ่มจะเร่งตัวขึ้นในปี 2567 แต่ค่าเฉลี่ย PER ยังดูค่อนข้างตึงตัวที่ 26.5 เท่า นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในปีหน้า โดยยังคงแนะนำให้เลือกผู้ที่มียอดขายแข็งแกร่งและโครงสร้างด้านต้นทุนที่ดีและมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ โดยแนะนำบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)หรือ CPALLและบริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILMสำหรับปี 2567 ขณะที่ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือGLOBAL อาจเป็นการเล่นระยะสั้นเกี่ยวกับกำลังการใช้จ่ายในต่างจังหวัดที่สูงขึ้นและการฟื้นตัวของกำไรในปี 2567