AQUA พื้นฐานแข็ง

การทำธุรกิจไปเรื่อยๆ แบบไม่มีการขยับขยาย มันก็เหมือนการย่ำอยู่กับที ซึ่งแบบนี้บางบริษัทจะไม่สามารถอยู่รอดในตลาดได้ในอนาคต ดังนั้นทางที่ดีบริษัทต้องมีการตัดสินใจที่จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงก็ตาม แต่อาจดีกว่าการเลือกที่จะก้าวไปอย่างช้าๆ อาทิ การขยายตลาด การเข้าไปซื้อกิจการของบริษัท


–คุณค่าบริษัท–

 

การทำธุรกิจไปเรื่อยๆ แบบไม่มีการขยับขยาย มันก็เหมือนการย่ำอยู่กับที ซึ่งแบบนี้บางบริษัทจะไม่สามารถอยู่รอดในตลาดได้ในอนาคต ดังนั้นทางที่ดีบริษัทต้องมีการตัดสินใจที่จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงก็ตาม แต่อาจดีกว่าการเลือกที่จะก้าวไปอย่างช้าๆ อาทิ การขยายตลาด การเข้าไปซื้อกิจการของบริษัท

กลยุทธ์ดังกล่าวบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มักจะใช่กัน อย่าง บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ล่าสุดมีการขยายธุรกิจอีก โดยมีการอนุมัติให้บริษัทย่อยที่ถือหุ้นสัดส่วน 100% คือ บริษัท Green View Godo Kaisha หรือGK ในประเทศญี่ปุ่น เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Solar Mogami Godo Kaisha ในประเทศญี่ปุ่นสัดส่วน 100% เป็นเงิน 10,000 เยน หรือประมาณ 3,000 บาท

เหตุที่บริษัทมีการลงทุนเพื่อเป็นช่องทางในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพเพราะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูง เนื่องจากภาครัฐบาลมีนโยบายให้การสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ทั้งนี้บริษัทมีมติอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Mogami และโครงการ Hanamaki ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวม 3.86 เมกะวัตต์ เป็นมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,526 ล้านเยน หรือ 453 ล้านบาท

ผลดังกล่าว บริหารมองว่า โครงการนี้สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน เนื่องจากเพิ่มโอกาสการเติบโตจากการลงทุนโครงการในต่างประเทศ และยังเป็นการเพิ่มรายได้แหล่งใหม่ให้แก่บริษัท อีกทั้งได้กระจายความเสี่ยงฐานที่มาแห่งรายได้ใหม่ จากธุรกิจเดิมให้บริการเช่าโครงป้ายเพื่อติดตั้งโฆษณา และจำหน่ายให้เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ สินค้าอื่นๆ

อย่างไรก็ดี ทางธุรกิจของบริษัท ณ ปัจจุบันก็ยังคงทำรายได้และกำไรได้เป็นอย่างดี ซึ่งดูได้จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 168.48 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 131.84 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 69.61 ล้านบาท หรือ 0.0152 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 33.44 ล้านบาท หรือ 0.0093 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 476.38 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 305.45 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 221.96 ล้านบาท หรือ 0.0483 ล้านบาท หรือ 0.0483 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 103.36 ล้านบาท หรือ 0.0289 บาทต่อหุ้น ส่วนนี้ เห็นได้ว่าธุรกิจของบริษัทยังเติบโตได้ดี

ที่น่าประทับใจอีกคือ เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง เพราะ บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 1,624.10 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 289.95 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 5.61 เท่า แสดงว่า สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทมากเกินความจำเป็น

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 2,028.08 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 3,325.72 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.61 เท่า แสดงว่า บริษัทแทบไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สินเลยก็ว่าได้

สิ่งสำคัญ คือ หุ้นตัวนี้ยังมีค่า P/E ที่ยังไม่แพงมากนัก โดยค่า P/E อยู่ที่ 8.10 เท่า อีกทั้งเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ 0.69 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 1.50 เท่า ซึ่งเป็นการคำนวณแบบอนุรักษ์นิยม จะได้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 1.04 บาท และเมื่อนำเทียบกับราคาหุ้นบนกระดานที่ระดับ 0.71 บาท แสดงว่า ยังเหลือแก๊ปให้นักลงทุนเข้าเล่นอีกเยอะพอสมควร

AQUA ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าลงทุน!!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ 700,000,000 หุ้น 15.24%

2.SIAM MEDIA LIMITED 640,250,000 หุ้น 13.94%

3.นางสุมาลี อ่องจริต 318,477,400 หุ้น 6.93%

4.นายนิพนธ์ ณัฐวุฒิ 225,494,418 หุ้น 4.91%

5.น.ส.ชวัลลักษณ์ เอี้ยวศิวิกูล 143,073,022 หุ้น 3.12%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย จุลสิงห์ วสันตสิงห์ประธานกรรมการ

2.นาย จุลสิงห์ วสันตสิงห์กรรมการอิสระ

3.นาย ธวัชไชย สุทธิกิจพิศาลประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

4.นาย ธวัชไชย สุทธิกิจพิศาลกรรมการ

5.นาย พลสิทธิ ภูมิวสนะกรรมการ

Back to top button