SC ยังสดใส

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2558 ของ SC จะกลับมาสดใส และคาดรายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากบริษัทจะมีการโอนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูงด้วย


–คุณค่าบริษัท–

 

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2558 ของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC จะกลับมาสดใส และคาดรายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากบริษัทจะมีการโอนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูงด้วย

นอกจากนี้ผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลคาดว่าจะทำให้มีการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านแนวราบและคอนโดที่คึกคักขึ้นมาก โดยรวมรายได้รวมทั้งปี 2558 คาดไว้ที่ 13,558 ล้านบาท เติบโต 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ที่ทำมา

อีกทั้งคาดว่ากำไรสุทธิปี 2559 ยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตราว 5% – 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปี 2558 อีกทั้งมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 10 โครงการ ซึ่งรวมโครงการที่เปิดตัว Soft launch ในช่วงไตรมาส 4 ปี 58 อีก 3 โครงการเข้าไปด้วย สำหรับโครงการใหม่รวมทั้ง 10 โครงการ จะมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 8 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 12,500 ล้านบาท และโครงการคอนโด 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายยอด Presales ปี 2559 จะเติบโตราว 10% – 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปี 2558

แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 3,116.84 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,882.45 ล้านบาท เหตุจากรายได้จากการขายช่วยไตรมาสลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 410.50 ล้านบาท หรือ 0.0982 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 525.98 ล้านบาท หรือ 0.1259 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนสินสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9,029.82 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 8,190.98 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,068.45 ล้านบาท หรือ 0.2557 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 941.34 ล้านบาท หรือ 0.2253 บาทต่อหุ้น เนื่องจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น

สิ่งสำคัญ คือ เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจสำหรับลงทุนพบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 24,367.95 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 10,903.98 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 2.24 เท่า แสดงว่า สภาพคล่องทางการเงินดีมากพอสมควร

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้บริษัทจะมีเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินจำนวน 1,447.31 ล้านบาท รวมถึงมีหุ้นกู้เข้ามาจำนวน 5,760 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินรวม 19,219.96 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 12,407.61 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 1.55 เท่า เพราะเชื่อว่าปัญหาส่วนนี้บริษัทจะรีบดำเนินการอีกไม่ช้า เนื่องจากบริษัทยังทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง จึงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี มองว่า PER ยังต่ำ, กำไรโตดี, ปันผลน่าสนใจ ยังแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4 บาท

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 1,081,022,107 หุ้น 29.10%

2.น.ส.พินทองทา ชินวัตร 1,046,147,107 หุ้น 28.16%

3.นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ 178,875,000 หุ้น 4.81%

4.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 114,404,871 หุ้น 3.08%

5.คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ 104,097,678 หุ้น 2.80%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย รัฐ กิตติเวชโอสถ ประธานกรรมการบริษัท

2.นาย รัฐ กิตติเวชโอสถ กรรมการอิสระ

3.นาง บุษบา ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร

4.นาง บุษบา ดามาพงศ์ กรรมการ

5.นาย ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Back to top button