7 หุ้นฝรั่งชอบ
มีคนถาม “โมนิก้า” ว่า รู้สึกกลัวเมื่อเห็นตลาดหุ้นแกว่งตัวฉวัดเฉวียนบ้างไหม? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า เลิกกลัวไปตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้ว!
มีคนถาม “โมนิก้า” ว่า รู้สึกกลัวเมื่อเห็นตลาดหุ้นแกว่งตัวฉวัดเฉวียนบ้างไหม? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า เลิกกลัวไปตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้ว! เพราะได้เห็นแรงซื้อทยอยไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่แรงขายก็เริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้เชื่อว่า สถานการณ์ต่อจากนี้คงไม่มีอะไรเลวร้ายเหมือนกับปีก่อนอีกแล้ว ผนวกกับพวกพ้องในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนก็เชื่อว่า ปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน เลยเป็นจังหวะของการเล่นแบบยาว ๆ พะย่ะค่ะ
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเร่งรวมข้อมูลการลงทุนจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อมาประมวลผลว่า แต่ละแห่งมีหุ้นดาวเด่นตัวไหนกันบ้าง จนในที่สุดก็ได้รายชื่อมาทั้งหมดด้วยกัน 7 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็เป็นหุ้นใหญ่กันทั้งนั้น และเป็นที่หมายปองของฝรั่งหัวทองเสียด้วย จึงอยากนำเสนอเรื่องราวของหุ้นกลุ่มดังกล่าวกับแฟนคลับ เพราะอาจใช้เป็นข้อมูลประกอบลงทุนในภายภาคหน้าไงล่ะคะ
ตัวแรกที่ทุกคนมองเหมือนกันต้องยกให้ AOT ซึ่งเป็นหุ้นที่เดี๊ยนเขียนถึงแทบทุกวัน และวันนี้ต้องนำกลับมาเม้าท์ต่ออีกครั้ง เพราะเป็นรายแรกที่โบรกเกอร์แทบทุกสำนักเขียนถึงเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินราคาเป้าหมายที่บริเวณ 76 บาท เทียบกับราคาในกระดานที่ระดับ 62.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.54 พันล้านบาท น่าสนใจไหมจ๊ะ
เช่นเดียวกับในรายของน้องมิ้น MINT ก็เป็นหุ้นที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากถอนพิษโควิดสำเร็จแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า ราคาเป้าหมายที่บรรดาโบรกเกอร์ให้ไว้ที่บริเวณ 43 บาทน่าสนใจสุด ๆ เพราะเมื่อเทียบกับราคาในกระดานที่บริเวณ 29.25 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 547 ล้านบาท มีแก๊ปให้หุ้นมากถึง 13 บาท จึงเป็นตัวแรก ๆ ที่เดี๊ยนอยากเม้าท์ถึงบ่อย ๆ จ้า
อีกตัวหนึ่งที่ “โมนิก้า” มองว่าเป็นปีที่ดีของเขาจริง ๆ คงต้องเหลียวมองหุ้น CPN แบบตั้งใจเป็นพิเศษ และถ้าคิดบนสมมติฐานเศรษฐกิจกลับมาอู้ฟู่ ก็เชื่อได้ว่า ยอดเก่าที่เคยทำไฮไว้บริเวณ 75.50 บาทไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะโบรกเกอร์บางแห่งให้ราคา 80 อัพ ขระที่ราคาปิดวานนี้ยืนอยู่ที่ระดับ 68 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 633 ล้านบาท มันเหมาะต่อการทยอยเก็บนะจะบอกให้
ถ้าเมาท์ถึงเรื่องเศรษฐกิจขึ้นมาทั้งที ย่อมมีชื่อของร้านสะดวกซื้ออย่าง CPALL ติดอยู่ในโผอย่างแน่นอน และประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องให้ความสนใจก็มาจากราคาเป้าหมายที่อยู่สูงกว่าระดับ 70 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ระดับ 55.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 995 ล้านบาท มันทำให้เห็นว่า หุ้นมีอัพไซด์มากถึงระดับ 25% เชียวนะตัวเอง!
ส่วนรายที่มีลุ้นวิ่งกลับไปหายอดเดิมในไม่ช้าอย่าง TIDLOR ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งรายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสเต็ปการขึ้นเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาร่วมสนุกตลอดเวลา เพราะราคาหุ้นมักกระชากขึ้นแรง ต่อจากนั้นก็พักตัวระยะหนึ่ง ก่อนระเบิดฟอร์มขึ้นแรงอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า ราคาเป้าที่โบรกเกอร์ให้ไว้ตรงบริเวณยอดเดิมที่ระดับ 28 บาทไม่ไกลเกินเอื้อม หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 23.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาทไงล่ะคะ
สำหรับคนที่ชอบเซฟ ๆ และรอวันขึ้นอย่างจริงจัง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับลองไปสืบค้นข้อมูลของหุ้น GPSC กันสักนิดหนึ่ง หลังโบรกเกอร์มองว่า ปีนี้ผลงานจะดีขึ้นกว่าปีก่อน เลยวางเป้าราคาไว้ที่บริเวณ 60 บาทแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจช่วงตลาดหุ้นกำลังเซตตัวขึ้นรอบใหม่ และมองการยืนปิดที่ระดับ 49.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.98% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 389 ล้านบาท เป็นจังหวะที่ต้องเล่นค่ะ
ตัวสุดท้ายขอมองไปที่หุ้นปลากระป๋อง TU แบบไม่ลังเลใจ เพราะเป็นหุ้นที่มี “แรงซื้อ แรงขาย” ยื้อกันไปมาเป็นช่วง ๆ ซึ่งเป็นการย้ำให้เห็นว่า หุ้นตัวนี้ต้องมีดีอะไรบางอย่างที่เตรียมจะเอามาโชว์อีกแน่ ๆ ผนวกกับช่วงดี ๆ ที่เล่นกันเมื่อปีก่อนอยู่แถว 18 บาท เดี๊ยนเลยอยากถามขาลุยทั้งหลายว่า การยืนปิดที่ระดับ 14.90 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 162 ล้านบาท น่าสนไหม?..หากคิดไม่ออก ลองหารีเสิร์ชดูนะออเจ้า!