ระวังกองทุนทิ้งโมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” เตรียมตัวจะกล่าวคำอวยพรสวัสดีปี 59 แต่เผอิญเห็นบรรยากาศการลงทุนช่วงส่งท้ายปี 58 ไม่ค่อยสดใสซาบซ่าสักเท่าไหร่ จึงขอเปลี่ยนมาเม้าท์เรื่องหนักๆ เพื่อกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนของนักลงทุน เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเข้าลงทุนรอบใหม่ ซึ่งปีนี้จะเต็มไปด้วยขวากหนามนานัปการ จึงไม่มีเวลาทำตัวตุ้งติ้งไปวันๆ เพราะมันไม่ใช่รูปแบบของการลงทุนในปีนี้นะซี
*เดิมที “โมนิก้า” เตรียมตัวจะกล่าวคำอวยพรสวัสดีปี 59 แต่เผอิญเห็นบรรยากาศการลงทุนช่วงส่งท้ายปี 58 ไม่ค่อยสดใสซาบซ่าสักเท่าไหร่ จึงขอเปลี่ยนมาเม้าท์เรื่องหนักๆ เพื่อกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนของนักลงทุน เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเข้าลงทุนรอบใหม่ ซึ่งปีนี้จะเต็มไปด้วยขวากหนามนานัปการ จึงไม่มีเวลาทำตัวตุ้งติ้งไปวันๆ เพราะมันไม่ใช่รูปแบบของการลงทุนในปีนี้นะซี
*ถ้าให้ “โมนิก้า” พิจารณาความเป็นไปได้ของดัชนีจะเป็นไปในทางไหน เดี๊ยนคงต้องพุ่งประเด็นไปที่การเทขายของกองทุน LTF (ชอบขายเดือน ม.ค.เป็นประจำทุกปี) สาแก่ใจแล้วหรือยัง? หากยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับผู้จัดการกองทุน ดัชนีมีโอกาสรูดลงไปอยู่ใต้ระดับ 1,250 จุดแหงๆ เพราะองค์ประกอบต่างๆ ที่เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อนมันปลุกเร้าให้เป็นเช่นนั้น จึงไม่ควรนำประเด็นอื่นมาเชื่อมโยงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าค่ะ
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 56 ตอนนั้นนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาตลอดทั้งปี รวมเบ็ดเสร็จทิ้งไปทั้งสิ้น 200,000 ล้านบาท และเมื่อดูดัชนีตอนต้นปีอยู่ที่ระดับ 1,391 จุด พอถึงช่วงปลายปีอยู่ที่ระดับ 1,300 จุด แถมช่วงต้นปีออกแอ็กชั่นสุดสวิงริงโก้อีโต้บาน จนใครต่อใครเชื่อว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุด พอเอาเข้าจริงกลับแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทั้งปี..เขาถึงโทษฝรั่งทำพิษไงล่ะค่ะ
*งานนี้อย่าพูดถึงประเด็นอื่นให้เสียเวลา สู้เอาข้อมูลที่มีอยู่มาตีแผ่ความจริงให้ครบทุกด้านดีกว่า พร้อมกันนี้ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนกลับไปทบทวนคำแนะนำให้ซื้อเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นคำแนะนำที่ยอมรับได้ไหม? ถ้ายอมรับได้ตามตรรกะที่พร่ำพรรณนา นี่คือโอกาสทองของการลงทุน เพียงแต่การซื้อรอบนี้ต้องมองยาวขึ้นสักนิดหนึ่ง หรือถ้าคิดจะเล่นสั้น ก็ต้องสั้นจริงๆ นะจะบอกให้
*สรุปง่ายๆ แบบไม่ต้องพูดอะไรมากก็คือ มีหุ้นจำนวนมากที่ราคาค่อนข้างถูก แต่ขึ้นไม่ได้สักทีนั้น น่าจะเป็นผลมาจากมีคนกดราคาจนโงหัวไม่ขึ้น และเมื่อพิจารณาจากหุ้นบลูชิพหลายตัวที่โดนถล่มจนราบเป็นหน้ากอง “โมนิก้า” เห็นหุ้นอยู่สองตัวที่กู่ไม่กลับแล้วแน่ๆ น่าจะเป็นในรายของ PTT และ PTTEP ราคาหุ้นไหลรูดอย่างกับคนท้องเสีย..บ่องตง หมดความน่าสนใจแล้วจริงๆ ไม่เชื่อลองถามกูรูหุ้นสำนักต่างๆ ดูก็ได้นะคะ
*ส่วนที่เป็นผู้แพ้ในวงการตลาดหุ้นอีกหนึ่งตัว และสร้างความผิดหวังอย่างรุนแรงให้กับกองเชียร์ นาทีนี้ไม่มีใครเกินหน้าเกินตา SIRI และเมื่อส่องกล้องย้อนหลังกลับไปจะเห็นว่า เมื่อนับรวมเบ็ดเสร็จตลอดทั้งปี 58 หุ้นตัวนี้ปรับตัวลง 20% แถมในช่วงท้ายปีนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ ออกโพยหุ้นอสังหาฯ น่าเก็บเข้าพอร์ต ไม่มีชื่อหุ้นตัวนี้อยู่ในรายการเสียด้วย สงสัยจะกู่ไม่กลับแล้วแน่ๆ และอาจได้เห็นราคาที่ต่ำกว่า 1.50 บาทเสียแล้วกระมัง…อิอิอิ
*เช่นเดียวกับหุ้นสื่อสาร ADVANC DTAC TRUE JAS ทั้งหมดอยู่ในช่วงของการตั้งฐานใหม่อีกรอบ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า รอบนี้จะยืนระยะได้นานแค่ไหน? ขนาดผู้รู้หลายท่านออกมาพูดเหมือนกันว่า หุ้นสุดแสนจะถูกแสนถูก แต่สุดท้ายยังมีการขนของออกมาขายตลอดเวลาแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นกระบวนการที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเช่นเดียวกัน เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่กองทุน LTF จ้องจะออกของนะซี
*ส่วนคนที่ชอบอะไรที่วูบวาบอย่างไร้เหตุผล “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู GL เป็นลำดับแรกก่อนใครเพื่อน ขนาดเทรดกันบนค่า P/E ที่ระดับ 52 เท่า และตัวเลข P/BV ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 4 เท่า ขณะที่ Yield ลดลงเหลือแค่ 0.27% มันไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การจดจำเลยพับผ่าซิ! แถมไซเคิลหุ้นเป็นแบบ “ลากแล้วทุบ” ลงทันที (ขึ้นไป 20 บาท แล้วปล่อยลงไปที่ 13.50 บาท) เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 18.20 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.80% มันไม่คุ้มที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลยนะจ๊ะ
*ไหนๆ เม้าท์ถึงความเสี่ยงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเลยไปดูเจ้าจำปี THAI เพื่อเป็นเกร็ดประดับความรู้สักเล็กน้อย เพราะการเหินทะยานขึ้นมาปิดที่ 9.20 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 7% เหมือนเป็นการเด้งรับข่าวล่วงหน้าเร็วไปหน่อย จนเข้าตำราที่ว่า “ยังไม่ทันจะเห็นน้ำ รีบตัดกระบอกไม้ไผ่” กำไรที่บอกจะได้ในนั้น..มันมาจากการขายเครื่องบิน หรือกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือกำไรจากการเฮดจ์น้ำมัน..เอาให้มันชัดๆ นะคะ
*อีกหนึ่งรายที่ต้องจับตาดูชัดๆ คงหนีไม่พ้น KCE ราคาหุ้นเทคออฟอย่างร้อนแรง แถมเป็นการบวกต่อเนื่องหลายวัน ขณะที่ค่า P/E ที่เทรดในเที่ยวนี้อยู่แค่ระดับ 18 เท่า “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นตัวนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 70 บาท บวกไป 1.50 บาท ที่สำคัญสุดคือ ตลอดระยะเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา หุ้นตัวนี้เคลื่อนตัวแบบ all time new high..รู้แล้วกระซิบบอกเพื่อนคนอื่นด้วยนะจ๊ะ
*ส่วนคนที่ชอบหุ้นประเภทม้านอกสายตา “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มิตรรักแฟนคลับเฝ้าดู TACC ซึ่งบริหารงานโดยคุณน้อง “ชัชชวี” ว่ากันว่า ปีนี้จะเป็นปีของการพลิกโฉมครั้งสำคัญของชีวิต เพราะพรั่งพร้อมไปด้วยเงินทุน แถมแผนธุรกิจก็เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ วันนี้ถึงต้องถามใจเหล่าผู้เล่นกันอีกครั้งว่า การที่หุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะมาปิดที่ 4.98 บาท บวกไป 0.06 บาท เป็นราคาที่เขาเม้าท์กันว่า ยังเล่นได้สบายๆ จริงหรือไม่? รอดูกันไปเรื่อยๆ นะคะ