รับปีมังกร! TRUE ออกหุ้นกู้ 5 ชุด ดอกเบี้ย 3.15-4.60% “ทริส” จัดเครดิต “A+” แนวโน้มคงที่

“ทรู คอร์ปอเรชั่น” ต้อนรับปีมังกรทอง! จัดหนักออกหุ้นกู้ 5 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15-4.60% ต่อปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26,29-30 ม.ค. 2567 ด้าน “ทริส เรทติ้ง” จัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน


บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ระบุว่าภายหลังจากควบรวมกิจการกับดีแทคทำให้รากฐานแข็งแกร่งขึ้นมาก สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การบูรณาการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนเชิงโครงสร้างนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา หรือ EBITDA อย่างชัดเจน

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ได้แรงหนุนจากรายได้บริการและจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ EBITDA ดีขึ้นเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันนับตั้งแต่การควบรวมกิจการของทรูกับดีแทคนั้นเอง และเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจของบริษัทที่มุ่งส่งมอบบริการที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกค้าเติบโตขึ้นผ่านการบริหารเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกันทรูมีความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้ภายใต้บริษัทใหม่ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ต้อนรับปีมังกรทอง เชื่อมั่นว่าความสนใจในหุ้นกู้ปี 2567 ยังมาแรง เนื่องจากช่วงปี 2566 ที่ผ่านมาผลตอบแทนตลาดหลักทรัพย์ไทยผันผวนลดลงอย่างหนัก มูลค่า Market Cap หายไป 3 ล้านล้านบาท (อ้างอิงรายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ณ 12 ธันวาคม 2566)  ดังนั้นคาดการณ์ว่าในปี 2567 หุ้นกู้ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า ลดความผันผวน และความเสี่ยง ที่สำคัญดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่หุ้นกู้ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า

สำหรับทรูมั่นใจว่าการออกหุ้นกู้ครั้งใหม่จำนวน 5 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง 3.15-4.60% ต่อปี ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากทริสเรทติ้ง  และทรูยังติดอันดับ 1 ของโลก ดัชนีความยั่งยืน DJSI 2023 ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งจะเป็นผลบวกและทำให้หุ้นกู้ได้รับความสนใจในการลงทุนเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนทั่วไปที่มีความต้องการลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคง อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลบวกจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และให้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับการลงทุนเพื่ออนาคตเสมอมา

นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน TRUE เปิดเผยว่าบริษัทฯเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งใหม่ภายใต้บริษัทใหม่ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” จำนวน 5 ชุด อายุหุ้นกู้ตั้งแต่ 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [3.15-4.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป  (Public Offering) โดยคาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ [26 – 30 มกราคม] 2567 ส่วนมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

โดยหุ้นกู้ 5 ชุด มีรายละเอียดดังนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 มีอายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 มีอายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 3 มีอายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.85% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 4 มีอายุ 5 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.20% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60% ต่อปี (ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5) โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง 5 ชุดดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัท พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักลงทุนร่วมเติบโตไปด้วยกันกับบริษัทใหม่ที่พร้อมเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัลที่มีศักยภาพการเติบโตสูง หลังจากมีรากฐานแข็งแกร่งหลังรวมจุดแข็งระหว่างทรูและดีแทคเข้าด้วยกัน”

การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ให้แก่ผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป โดยมีอายุหุ้นกู้ระหว่าง 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ ดังนั้น นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นก็สามารถเลือกลงทุนในรุ่น 1 ปี 3 เดือน รุ่น 2 ปี 6 เดือน หรือรุ่น 3 ปี 3 เดือน

ส่วนนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะกลางก็อาจเลือกลงทุนในรุ่น 5 ปี 3 เดือน หรือนักลงทุนท่านใดที่ชอบลงทุนระยะยาวและต้องการดอกเบี้ยเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็อาจเลือกจะลงทุนในรุ่น 10 ปี เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหรือ Yield Curve ที่ปรับตัวลดลงหลังจากที่ธนาคารกลางประเทศหลักๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ เริ่มส่งสัญญาณหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้บางประเทศเริ่มมีการกล่าวถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 หลังจากเงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้ในช่วงที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงๆ ซึ่ง TRUE ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” และไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้หรือเลื่อนการชำระหนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “A+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะความเสี่ยงด้านการเงินและด้านธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น ทั้งตำแหน่งทางการตลาด (market position) ที่แข็งแกร่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เสริมทัพด้วยโครงข่ายทั่วประเทศ ชุดคลื่นความถี่ที่ครอบคลุม และชื่อแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคย อีกทั้งบริษัทฯมีปัจจัยบวกด้านเศรษฐกิจมหภาค อาทิ ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ประเทศไทย อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะเดียวกัน “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ได้รับการจัดอันดับดัชนีความยั่งยืนระดับเวิลด์คลาส Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ปี 2023 ด้วยคะแนนสูงสุด ในกลุ่มโทรคมนาคมของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ตามประกาศของ S&P Global เมื่อ 8 ธันวาคม 2566 ด้วยยุทธศาสตร์สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบทุกมิติ ชูนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ลดการใช้พลังงาน เสริมทักษะดิจิทัล นำศักยภาพเทคโนโลยีดิจิทัลลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา พร้อมขยายผลกระบวนการธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน หนุนธรรมภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

สำหรับผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ TRUE สามารถจองซื้อระหว่างวันที่ [26 -30 มกราคม] 2567 (โดยในวันเสาร์ที่ 27 และวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567 จะเปิดจองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น)สอบถามเพิ่มเติม ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่

1.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking

2.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02 888 8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

3.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

4.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน แอป CIMB Thai Digital Banking

5.ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 285 1555

6.บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02 680 4004

รวมทั้งจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ ได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6

Back to top button