BDMS ‘หมอปุย’ ลุย (เก็บ) หุ้น
จะเห็นว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 หุ้น BDMS ราคาไหลลงเรื่อย ๆ จนมาแตะที่ 25 บาทเศษ กระทั่งปลายปีที่แล้วราคาก็เริ่มกลับมา โดยเฉพาะช่วง 3 วันสุดท้ายในการซื้อขายของปีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นผิดหูผิดตา ทะลุหลักพันล้านบาททุกวัน..!!
จะเห็นว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 หุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ราคาไหลลงเรื่อย ๆ จนมาแตะที่ 25 บาทเศษ กระทั่งปลายปีที่แล้วราคาก็เริ่มกลับมา โดยเฉพาะช่วง 3 วันสุดท้ายในการซื้อขายของปีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นผิดหูผิดตา ทะลุหลักพันล้านบาททุกวัน..!!
นั่นอาจเป็นเพราะ BDMS เป็นหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่อยู่ในเทียร์ของกองทุน ประกอบกับราคาที่ไหลลงมาลึก ก็เลยเป็นหนึ่งในหุ้นเป้าหมายการทำวินโดว์เดรสซิ่ง ส่งผลให้ BDMS ปิดสถานะสิ้นปี 2566 (วันที่ 28 ธ.ค.) ที่ราคา 27.75 บาท
แต่ระหว่างที่ราคาลงมาลึก ๆ อย่างนี้ ก็มีคนหนึ่งที่เข้ามาเก็บหุ้นตลอด ๆ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “หมอปุย”–“พญ.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ” ลูกสาวของ “หมอเสริฐ”–“นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นเบอร์ 3 นั่นเอง
ตลอดปี 2566 จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าเปิดหัวปี 2566 มา เดือนมกราคมแค่เดือนเดียว “หมอปุย” ทำรายการซื้อมือเป็นระวิงไม่ต่ำกว่า 10 รายการ แต่ละรายการก็หลักแสนหลักล้านหุ้น รวมกันแล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ล้านหุ้น
จากนั้นในเดือนมีนาคม 2566 ก็ซื้อหุ้นเพิ่มอีก 1.41 ล้านหุ้น ถัดมาเดือนพฤษภาคม ทำรายการซื้ออีก 2 ครั้ง รวมกัน 3.52 ล้านหุ้น
ทิ้งช่วงไปพักใหญ่ กระทั่งปลายเดือนธันวาคม จัดหนักจัดเต็มส่งท้ายปี 2566 ด้วยการควักเงิน 997.50 ล้านบาท ซื้อ Big Lot จำนวน 38 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 26.25 บาท
ถ้าคิดเป็นเม็ดเงินตลอดทั้งปี “หมอปุย” น่าจะใช้เงินซื้อหุ้นไปไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ละมั้ง..!?
ขณะที่การเก็บเล็กผสมน้อย ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2566 “หมอปุย” ถือหุ้น BDMS เพิ่มเป็น 862.20 ล้านหุ้น เทียบกับเมื่อช่วงต้นปี 2566 ถือหุ้นอยู่ที่ 814.45 ล้านหุ้น
ก็น่าคิด แม้คนเป็นพ่อ “นพ.ปราเสริฐ” และพี่ชาย (พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ) จะขายหุ้น BDMS แต่การที่ “หมอปุย” ทยอยเก็บหุ้นมาตลอดอย่างนี้ เป็นการส่งสัญญาณอะไรอ๊ะป่าว..?
เพราะถ้าไปส่องปัจจัยพื้นฐาน BDMS ก็กำลังอยู่ในโหมดการฟื้นตัวหลังโควิดเจือจาง…ดูได้จากผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 3,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,385 ล้านบาท และมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 26,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 23,985 ล้านบาท
หนุนให้งวด 9 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิ 10,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,493 ล้านบาท และมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 75,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 69,125 ล้านบาท
แถมเป็นหนึ่งในหุ้นธีม Global play รับผลประโยชน์จาก Medical Tourism จากการเปิดประเทศหนุนให้ผู้ป่วยต่างชาติเดินทางเข้ามารักษาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ขณะที่ นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อ BDMS โดยคาดปี 2566 อย่างน้อย ๆ น่าจะเห็นกำไรไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท หรือช่วงระหว่างปี 2567-2569 จะเห็นกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% และพร้อมใจกันแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 37.50 บาท
แหม๊ สตอรี่เด่นซะขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่ “หมอปุย” จะเก็บหุ้นตลอดปี 2566 ว่าแต่ปี 2567 จะเก็บต่อหรือเปล่าเนี่ย..? หรือถึงคราวต้องแบ่งขายทำกำไรแล้ว..?? ก็ไม่รู้สินะ
ส่วนใครจะมองต่างจากนี้ก็ไม่ว่ากัน…นานาจิตตัง
…อิ อิ อิ…