หุ้นธนาคารไทย
เมื่อวานนี้ขณะที่ดัชนีนิเกอิของญี่ปุ่นทำนิวไฮในรอบ 30 กว่าปี แต่ตลาดหุ้นไทยกลับร่วงลงเนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งได้เวลาสรุปผลงานประจำปี
เมื่อวานนี้ขณะที่ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นทำนิวไฮในรอบ 30 กว่าปี แต่ตลาดหุ้นไทยกลับร่วงลงเนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งได้เวลาสรุปผลงานประจำปีและจ่ายเงินปันผลโดยที่มีกำไรสูงขึ้นแต่ราคาหุ้นกลับร่วงลงยกแผงเนื่องจากนักวิเคราะห์ของต่างชาติพากันดาวน์เกรดหุ้นกลุ่มนี้และแนะนำให้ขายทิ้งทั้งที่หุ้นกลุ่มนี้มีกำไรสูงขึ้นและบุ๊กแวลูสูงขึ้นตาม
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นิกเกอิปิดแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 34 ปีเป็นวันที่สอง เข้าข่ายภาวะฟองสบู่เต็มตัวทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยรวมไม่มีข่าวดีอะไร
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 34,441.72 จุด พุ่งขึ้น 678.54 จุด หรือ +2.01% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2533 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่
หุ้นบวกนำตลาดเมื่อวานนี้ได้แก่กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด, กลุ่มเภสัชภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
สำหรับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้กลับวิ่งสวนทางกับหุ้นกลุ่มแบงก์โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารถูก Downgrade จาก CLSA และ Goldman Sachs เลยทำให้ปรับตัวลงแรงวันนี้ โดย Goldman Sachs ปรับคำแนะนำ และราคาที่เหมาะสมหุ้นธนาคาร 5 ตัว ที่ถูกคาดว่ามาจาก 2 ประเด็นหลัก ๆ คือ 1.การแทรกแซงจากรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีอยากให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งหากมีการลดดอกเบี้ยจริง คาดจะกระทบต่ออัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ในปีนี้ 2.ผลประกอบการโดยรวมของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมีกำไรลดลงเนื่องจากอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้จะลดลงเหลือ 7% จากปีก่อนที่คาดไว้ 20%
ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ยังมีความเสี่ยงจากการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญเพิ่มขึ้น หากมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ หลังจากบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่อันดับหนึ่งของไทยขอเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ทุกรุ่นออกไปอีก 2 ปีแต่ยังคงจ่ายดอกเบี้ยตามปกติ และในปีนี้ 67 ITD มีหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน 2 พันล้านบาท ในเดือน ก.พ. และ 3.67 พันล้านบาท ในเดือน ธ.ค. และล่าสุด บจก.สยามนุวัตร (SNW) เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ วันที่ 23 ม.ค. 67 นี้ เพื่อขอเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ครบดีลปีนี้ทั้ง 3 รุ่น มูลหนี้ 520 ล้านบาท ไปอีก 1 ปี เป็นปี 68
ทั้งนี้ในปี 67 จะมีหุ้นกู้ภาคเอกชนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนกว่า 1 ล้านล้านบาท
นอกจากนั้นยังมีมุมมองทางลบจาก Story ดอกเบี้ยขาขึ้นจบแล้ว และปีนี้น่าจะเห็นการแข่งขันในเรื่องของต้นทุนเงินฝากที่สูงขึ้นของธนาคาร, การรุกธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank ซึ่งน่าจะทำให้ต้นทุนการแข่งขันสูงขึ้น
ปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในของหุ้นกลุ่มธนาคารไทยน่าจะส่งผลเสียต่อราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่ราคาต่ำกว่าบุ๊กแวลูกันทั่วหน้า และแน่นอนว่าจะส่งผลเสียต่อดัชนีโดยรวมของตลาดหุ้นไทย