PROUD สตอรี่แพรวพราว!
PROUD ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่มาเป็น “กลุ่มลิปตพัลลภ” รวมทั้งเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจหันมาโฟกัสธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วเสร็จ ก็ดูพราวเสน่ห์มากขึ้น
คุณค่าบริษัท
หลังจากบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่มาเป็น “กลุ่มลิปตพัลลภ” รวมทั้งเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจหันมาโฟกัสธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วเสร็จ ก็ดูพราวเสน่ห์มากขึ้น โดยเฉพาะในแง่ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยในปี 2565 พลิกมามีกำไร 228.52 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้ขาดทุนต่อเนื่องมานานหลายปี
ขณะที่ งวด 9 เดือนแรกปี 2566 ตุนกำไรไว้แล้ว 148.70 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,325 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และรายได้อื่น ส่งผลให้ปัจจุบัน PROUD สามารถล้างขาดทุนสะสมได้สำเร็จ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรอยู่ที่ 68.04 ล้านบาท
ไม่เพียงผลงานที่โตโดดเด่น PROUD ยังมีสตอรี่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการทุ่มเงินก้อนโตซื้อ 2 โครงการคอนโดมิเนียมจากบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ได้แก่ โครงการนิว ครอส คูคต สเตชั่น คอนโดมิเนียม Low-rise สูง 7-8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม High-rise ขนาดใหญ่สูง 33 ชั้น และ 41 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ได้ทันที
ทำให้ถูกมองว่านับจากนี้ไปจะเข้าสู่โหมดการเติบโต หลังจาก ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 10,491 ล้านบาท โดยมาจาก 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ปัจจุบันยังคงมี Backlog มูลค่า 187 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยรับรู้ในช่วงไตรมาส 4/2566 ประมาณ 300 ล้านบาท
2.โครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน (มูลค่าโครงการ 2,104 ล้านบาท) ปัจจุบันมี Backlog มูลค่า 2,104 ล้านบาท จะเริ่มทยอยส่งมอบโครงการตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2566 ซึ่งเป็นการส่งมอบโครงการเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ 3.โครงการ เวหา หัวหิน ปัจจุบันมี Backlog มูลค่า 850 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้ในปี 2568
4.โครงการ รมย์ คอนแวนต์ ปัจจุบันมี Backlog มูลค่า 1,430 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้ในปี 2569 และ 5.โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 ปัจจุบันมี Backlog มูลค่า 5,920 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้ในปี 2568
ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายจะเติบโตได้ต่อ โดยวางเป้ายอดขายไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่คาดว่าจะสามารถปิดยอดขายจากการพัฒนาโครงการเองได้ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท โดยในปี 2567 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 3,600 ล้านบาท
สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมียอดขาย (Presale) จากโครงการที่พัฒนาเองแล้ว 2,700 ล้านบาท และมียอดขายจาก 2 โครงการที่ซื้อมาจาก NOBLE จำนวน 7,598 ล้านบาท ส่วนในปี 2567 คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการ วี อารีย์, โครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน เข้ามาในไตรมาส 1-2/2567 และโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ที่เหลือบางส่วน ซึ่งจะผลักดันให้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2567 อยู่ที่ 2,669 ล้านบาท เติบโต 63% จากเป้าหมายรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2566 ที่วางไว้ 1,600 ล้านบาท
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น PROUD ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 4.86 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.37 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาดหลายเท่า สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 0.99 เท่า ก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.37 เท่า