สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ม.ค. 2567
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ม.ค. 2567
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (12 ม.ค. 67) ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดบวกเล็กน้อยหลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยการเปิดเผยผลประกอบการที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทางของธนาคารต่าง ๆ นั้นได้บดบังปัจจัยบวกจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดซึ่งสนับสนุนความคาดหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,592.98 จุด ลดลง 118.04 จุด หรือ -0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,783.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,972.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด หรือ +0.02%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (12 ม.ค. 67) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเฟด และธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นแอร์บัสที่พุ่งขึ้นหลังจากรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องบินต่อปีสูงเป็นประวัติการณ์
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 476.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด หรือ +0.84%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,465.14 จุด เพิ่มขึ้น 77.52 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,704.56 จุด เพิ่มขึ้น 157.53 จุด หรือ +0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,624.93 จุด เพิ่มขึ้น 48.34 จุด หรือ +0.64%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (12 ม.ค. 67) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ตลาดปิดลบในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,624.93 จุด เพิ่มขึ้น 48.34 จุด หรือ +0.64%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (12 ม.ค. 67) และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดในทะเลแดงซึ่งทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานน้ำมัน หลังจากที่สหรัฐและอังกฤษใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 72.68 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ราคาปรับตัวลง 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (12 ม.ค. 67) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อจากราคาผู้ผลิตต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง นอกจากนี้ นักลงทุนได้แห่ซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่สหรัฐและอังกฤษใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 32.40 ดอลลาร์ หรือ 1.60% ปิดที่ 2,051.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และเพิ่มขึ้นราว 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 62.40 เซนต์ หรือ 2.757% ปิดที่ 23.329 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 921.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.50 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 978.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (12 ม.ค. 67) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด หลังสหรัฐและอังกฤษเปิดปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.11% แตะที่ระดับ 102.405