“เอกภาวิน” ชี้ SET ฟื้นตัว แนะลงทุน “กลุ่มโรงไฟฟ้า-ค้าปลีก”
“เอกภาวิน สุนทราภิชาติ” ประเมิน SET ฟื้นตัว แนะลงทุนหุ้นโรงไฟฟ้า ชู GULF เด่น รับแผนปรับ PDP พ่วงกลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL HMPRO และ CRC รับโครงการ Easy e-Receipt โดยให้กรอบดัชนีแนวต้าน 1,420 จุด แนวรับ 1,400 จุด
นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (15 ม.ค. 67) ว่าตลาดหุ้นมีการฟื้นตัว หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ (เฟด) ในช่วงกลางเดือนธ.ค 66 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ทำให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ “ฟันด์โฟลว์” มีปริมาณการไหลเข้าที่น้อยลงจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากความไม่มั่นใจหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐประจำเดือนธ.ค 66 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ รวมไปถึงภาวะเงินเฟ้อ
ขณะที่นักลงทุนปรับลดความมั่นใจว่า (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค โดยปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทำให้ตลาดมีการชะลอตัวติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยมีปรับตัวลงมาใกล้ที่ระดับ 1,400 นับว่าเป็นการปรับตัวได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงการประกาศรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค 67 และได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์โดยเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนสถานการณ์เงินดอลล่าที่แข็งค่ามาก่อนหน้านั้นได้มีแนวโน้วอ่อนตัวลง เช่นเดียวกับเงินบาทที่อ่อนค่าซึ่งได้กลับมาแข็งค่าขึ้นมาบ้าง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลกลับเข้ามาได้ ขณะที่มองตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัวในช่วงสัปดาห์นี้ โดยมองกรอบดัชนีแนวต้านอยู่ที่ 1,420 จุด แนวรับ 1,400 จุด
นอกจากนี้สถานการณ์เรื่องการปรับโครงสร้างพลังงานนั้นจะส่งผลได้ทั้งเชิงลบและเชิงบวก โดยจากเรื่องดังกล่าวกลุ่มที่อาจได้รับผลเชิงลบคือ “ปิโตรเคมี” อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เนื่องจากเดิมทีได้การเอาพลังงานก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยมีต้นทุนที่ถูก ขณะที่การปรับเปลี่ยนจะเป็นการรวบรวมทุกแหล่ง อาทิ อ่าวไทย เมียนมา หรือการนำเข้าพลังงานมารวมกันก่อน ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์นั้นคือ “กลุ่มโรงไฟฟ้า”
สำหรับคำแนะนำเก็งกำไร แนะลงทุน“กลุ่มโรงไฟฟ้า”เนื่องจากราคาที่ปรับตัวลง อีกทั้งการปรับโครงสร้างพลังงานจากที่กล่าวมา และข่าวผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ “บอนด์ยีลด์” ปรับตัวลงในช่วง 2 ปี รวมถึงสถานการณ์สภาพอากาศในทวีปยุโรปที่อุ่นขึ้นส่งผลให้ความต้องการก๊าซลดลงและราคาปรับลดตามไปด้วย โดยปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ลงทุน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
นอกจากนี้ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการภาครัฐ และ บอนด์ยีลด์ขาลง ตามด้วย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO และ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ “อีซี่ อี-รีซีท (easy e-receipt)”