ส่อง 9 หุ้นน้องใหม่ “ไอพีโอ” เรียงคิวเทรดไตรมาสแรกปีนี้

ทำความรู้จัก 9 หุ้น “ไอพีโอ” น้องใหม่เตรียมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SET-mai ในช่วงไตรมาส 1/67 ประเดิมด้วย ADVICE ลงสนามเทรด 31 ม.ค. 67


“ข่าวหุ้นออนไลน์” ได้รวบรวมข้อมูลหุ้น IPO ที่มีการเปิดให้จองซื้อก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET และ mai ในระหว่างช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 โดยมีด้วยกันทั้ง 9 หลักทรัพย์ ดังนี้

บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก-ส่ง สินค้าและให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจร พร้อมโอกาสในการเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเป็น 1 ใน 4 (BIG4) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ

ล่าสุด บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Apple Thaiand เพื่อลงนามในสัญญาเพื่อให้บริษัทฯ สามารถปิดร้าน iStudio by Advice อย่างเป็นทางกร โดยคาดการณ์ว่าจะเข้าทำสัญญาดังกล่าวกับ Apple Inc. ภายในไตรมาส 1/2567 คาดการณ์ว่าการขยายธุรกิจดังกล่าวจะช่วยเพิ่มฐานรายได้ของบริษัทให้เติบโตแข็งแกร่ง

โดยหลังจากที่บริษัทเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.24 บาท ระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม 2567 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก อีกทั้งราคาไอพีโอ อยู่ที่ 3.24 บาท ถือเป็นการกำหนดราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ 10 เท่า ซึ่งถือเป็นราคาเสนอขายที่มีส่วนลดจาก P/E เฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างสูง โดย ADVICE ได้ปิดเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.42% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจบริการ/พาณิชย์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อคนค้าขาย ( Nano and Micro Finance ) และสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ( Micro SME ) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้เท่าที่ควร รวมไปถึง บริการเงินฝาก และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจธนาคารฯ

โดยบริษัทได้กำหนดกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้น IPO ที่ราคา 29.00 บาทต่อหุ้น พร้อมดำเนินการเปิดจองซื้อสำหรับผู้ลงทุนสถาบันที่จองซื้อในประเทศ ระหว่างวันที่ 31 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยบริษัท ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายโดยธนาคารฯ และหุ้นสามัญที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 254, 124,200 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 5.00 บาท/หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของธนาคารฯ ภายหลังการทำ IPO ซึ่งทางผู้ถือหุ้นเดิมมีความประสงค์ที่จะถือหุ้นบางส่วนต่อไป เนื่องจากทางผู้ถือหุ้นเดิมเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธนาคารไทยเครดิตในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะนำหุ้น CREDIT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดกลุ่มธุรกิจการเงิน / ธนาคาร ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ และเชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ซึ่งชูจุดเด่นของธนาคารไทยเครดิต ถือเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มี NIM (NetInterest Margin) สูงสุดในอุตสาหกรรม มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม และอัตราการเติบโตของสินเชื่อสุงสุดในอุตสาหกรรม รวมถึงแผนการเติบโตสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนในระยะยาว โดยมี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เป็นฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่าย อย่างครบวงจร (SI : System Integrator) พร้อมทั้งให้บริการซ่อมแซม บำรุงรักษา และการให้เช่าอุปกรณ์ พร้อมทั้งให้บริกรซ่อมแซม บำรุงรักษา และการให้เช่าอุปกรณ์ โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ธุรกิจจำหน่ายแลดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย (ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้ง), 2. ธุรกิจให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง(ธุรกิจ MA) และ 3. ธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

โดยบริษัทได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของ SPREME จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนรองรับการประมูลโครงการที่มีขนาดใหญ่ เพื่อลงทุนซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ (M&A) และและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และสนับสนุนการเติบโตที่มั่นคงในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ประมาณไตรมาส 1/2567  โดยมี บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท ลีดเดอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LDG ผู้ประกอบธุรกิจ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้และบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง และ 2. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ต้อยคุณภาพ ด้วยประสบการณ์ของทีมผู้ริหารและบุคลากรมืออาชีพ และความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ว่าจ้าง ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 20  ปัจจุบันมีพนักงานประจำกว่า 900 คน ที่ให้บริการทั้งสำนักงานใหญ่ และสาขา ได้แก่ สาขาชลบุรี, สาขาเซียงใหม่, สาขานคราชสีมา, สาขาสงขลา และสาขาสุราษฎธานี เพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้าหรือผู้ว่าจ้างและรองรับการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้น

โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนไม่เกิน 210 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัท LDG เพื่อประกอบการยื่นคำขออนุญาตเสนอหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว และบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระตมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับนำไปซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและขยายกำลังคนในอนาคต, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) หมวดธุรกิจ (Sector) ธุรกิจการเงิน (FINCIAL) / เงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN) ในไตรมาส 1/2567 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท เอ็นแอลดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL ดำเนินธุรกิจก่อสร้างและงานติดตั้งระบบวิศวกรรมครบวงจร และยังได้นำเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) มาใช้ในการถอดแบบแต่ละขั้นตอนของการก่อสร้างทำให้การวิเคราะห์ การควบคุมงานออกแบบกรก่อสร้างเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุดทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำ โดยเฉพาะงานกลุ่มโรงพยาบาลที่มีความซับซ้อนสูงที่สอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์ อีกทั้งเป็นงานโครงการที่มีอัตรากำไรโดดเด่น

โดยบริษัทฯ เตรียมเดินทางไปนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนหรือโรดโชว์ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลัง IPO

พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง(PROPCON) หมวดธุรกิจบริกรรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ภายในไตรมาส 1ปี 2567 และมั่นใจว่าบริษัทฯ จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมามากกว่า 40 ปี ส่งให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกประเภทมีส่วนร่วมในการก่อสร้างโครงการซับซ้อน โดยมีบริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ขณะเดียวกัน บริษัทแบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BKGI ประกอบกิจการห้องปฏิบัติการ และให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ โดยบริการหลัก คือ การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ (NIPT) ภายใต้แบรนด์ NIFTY และบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO ก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในไตรมาส 1/2567 เช่นเดียวกัน

สำหรับบริษัทที่จะซื้อขายและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มีรายละเอียดดังนี้

บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ดำเนินธุรกิจเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารบริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ มุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชั่นทางเทคโนโลยีครอบคลุมบริการให้คำปรึกษา, ออกแบบ, จัดหา, จำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และรับเหมาวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้วยมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับโลก โดยแบ่งการให้บริการเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้งและรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ 2.ธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

โดยบริษัทได้รับการอนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 1/2567 โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 92 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 28.05% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัท บริษัทอยู่ในระหว่างการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนหรือโรดโชว์ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะทำการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุน มาขยายกิจการและงานโครงการต่างๆ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาการเงิน

บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL ผู้เชี่ยวชาญด้านประตูห้องผ่าตัด ห้องรังสิวิทยา ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย, กัมพูชา เมียนมาร์ และ สปป.ลาว ให้กับ ประตูอัตโนมัติระดับโลกแบรนด์ MANUSA จากประเทศสเปน มาตลอด 24 ปี ซึ่งประตูอัตโนมัติ MANUSA ได้รับความเชื่อมั่นจากโรงพยาบาลชั้นนำจำนวนมาก อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาล ศิริราช, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี

นอกจากนี้ PANEL ยังมีผลิตภัณฑ์หลัก สำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม และสำนักงาน คือ ผนังเคลื่อนที่ อัตโนมัติ โดยบริษัทฯ ได้ผลิตและติดตั้งผนังเคลื่อนที่ในห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงให้กับโรงแรมชั้นนำมากว่า 20 ปี อาทิ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี, โรงแรมเซนทารา, เซ็นทรัลเวิลด์, โรงแรมแชงกรีล่า และหอประชุม พาร์ค พารากอน สยามพารากอน เป็นต้น รวมถึงให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร

โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน 95 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 190,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (par) 0.50 บาทต่อหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IP0) จำนวนไม่เกิน 50,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.32 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ของ PANEL เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมโรดโชว์นำเสนอข้อมูลธุรกิจ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นี้

ทั้งนี้ คาดการณ์บริษัทฯสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567  ซึ่งมีบริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

Back to top button