DTCENT บวก 6% ปักธงปีนี้รายได้โต 15% ทุ่ม 400 ล้าน ขยายธุรกิจ-ลุยเปิดศูนย์ DTC SHOP
DTCENT บวก 6% ปักธงปีนี้รายได้โต 15% ทุ่ม 400 ล้าน รุกขยายธุรกิจ GPS Tracking - IoT Solutions พร้อมลุยเปิดศูนย์ DTC SHOP วางเป้าปีนี้เปิดเพิ่ม 20 แห่ง จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้ว 9 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (8 ก.พ. 67) ราคาหุ้นบริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCENT ณ เวลา 10:41 น. อยู่ที่ระดับ 1.87 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 5.65% สูงสุดที่ระดับ 1.91 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.77 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32.61 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ DTCENT เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาก GPS Tracking ที่ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น กลุ่มลูกค้ารายย่อย กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากการเปิดศูนย์บริการและขายสินค้า DTC SHOP โดยตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการเพิ่มอีก 20 แห่งภายในปีนี้ จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้ว 9 แห่ง
ขณะที่งานด้าน IoT Solutions และระบบ AI บริษัทวางแผนทำโครงการ Smart City Solution, Smart AI Solution ให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความสนใจ ปัจจุบันได้รับงานโครงการระบบ AI เพื่อบริหารจัดการเครื่องสูบน้ำของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร สำหรับระบบ BAMS (Business Activity Management System) เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 45 บริษัท
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ GPS Tracking และงาน IoT Solutions ทั้งการเปิดศูนย์ DTC SHOP เพิ่ม การรับงานจากโครงการของภาครัฐ การพัฒนาระบบ AI ให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งมีแผนที่จะนำโมเดล GPS Tracking และงาน IoT Solutions ไปในกลุ่มประเทศ CLMV และมีแผนที่จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ในรูปแบบ ควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) กับบริษัทที่มีผลประกอบการที่ดี คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2567 จึงมั่นใจว่าปัจจัยเหล่านี้จะสนับสนุนให้ผลงานของ DTCENT เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการขอ Certificate IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2567 และจะสามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ในปี 2568 ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้เริ่มมีการติดตั้งอุปกรณ์ GPS Tracking ให้กับรถขนส่งสินค้าในกลุ่มของ บริษัท บุญรอด และมีความร่วมมือในการทำงานโครงการของหน่วยงานราชการ
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2566 คาดว่ายังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคธุรกิจขนส่งสินค้า การเดินทาง การท่องเที่ยว เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะตามปกติแล้ว