ธ.กรุงเทพผุดสาขาปากเซ ขยายบริการสู่ลาวตอนใต้ในพื้นที่”สามเหลี่ยมมรกต”

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารเปิดให้บริการสาขาในต่างประเทศแห่งใหม่ ลำดับที่ 32 สาขาปากเซ ณ แขวงจำปาสัก ซึ่งเป็นสาขาลำดับที่ 2 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ต่อจากสาขาเวียงจันทน์ที่เปิดให้บริการมากว่า 22 ปี เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของธนาคารทางตอนใต้ของสปป.ลาวได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเมื่อรวมกับสาขาอื่นๆ ของธนาคารที่ล้วนอยู่ในเขตเศรษฐกิจสำคัญ จะเป็นผลให้ธนาคารสามารถขยายโอกาสการให้บริการแก่ลูกค้าและนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และนับเป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งของการขยายธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารที่มุ่งเน้นขยายธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมๆกับลูกค้า

เมืองปากเซ เป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสัก แขวงขนาดใหญ่ลำดับที่ 3 ของสปป.ลาว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เขตชายแดนติดกับประเทศไทยและกัมพูชา มีเมืองปากเซอยู่ใกล้กับจังหวัดอุบลราชธานีของประเทศไทย จำนวนประชากรราว 680,000 คน เส้นทางคมนาคมที่สะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทางของทั้ง 2 ประเทศ เป็นผลให้มีปริมาณการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจไทยและสปป.ลาวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งแขวงจำปาสักยังถูกกำหนดในแผนพัฒนา “สามเหลี่ยมมรกต” (Emerald Triangle) ระหว่างประเทศสปป.ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ที่ได้รับการช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และธนาคารพัฒนาเอเชีย เพื่อให้เขตรอยต่อระหว่าง 3 ประเทศกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการผลิต และการท่องเที่ยวในอนาคต

นายชาติศิริ กล่าวอีกว่าว่า ด้วยเครือข่ายสาขาต่างประเทศของธนาคารกรุงเทพที่ครอบคลุม 15 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในฐานะธนาคารไทยแห่งภูมิภาคอาเซียนที่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุม 9 ใน 10 ประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ที่มีอัตรากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยธนาคารมุ่งเน้นให้บริการสินเชื่อธุรกิจและบริการเพื่อการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งบริการเงินฝาก บริการสินเชื่อ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และบริการโอนเงินระหว่างประเทศ รวมไปถึงบริการด้านบัตรเครดิต ไปยังกลุ่มเดิมที่มีอยู่ของธนาคารและกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ธนาคารสามารถเชื่อมโยงบริการทางการเงินผ่านเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งของธนาคาร

สำหรับเศรษฐกิจของสปป.ลาวในปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปี 55 มีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) อยู่ที่ 10.60% ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศเริ่มเปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมเป็นเศรษฐกิจการตลาดเสรีมากขึ้น โดยรัฐบาลสปป.ลาวมองว่าการดึงดูดบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment:FDI) จะทำให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงเป็นโอกาสดีที่ธนาคารจะขยายเครือข่ายสาขาในสปป.ลาว โดยเฉพาะบริเวณที่มีลูกค้าสำคัญๆ ตั้งถิ่นฐานอยู่ เพื่อเปิดโอกาสสร้างฐานลูกค้าใหม่ที่มีถิ่นฐานอยู่ทางตอนใต้ของสปป.ลาว และขยายธุรกิจให้คลอบคลุมนักลงทุนจากต่างประเทศ นอกเหนือจากนักลงทุนไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น