ADVANC-INTUCH จับมือกันพุ่งแรง กูรูชี้หุ้นยังมี upside สูง-ติดโผกลุ่มปันผลเด่น

ADVANC-INTUCH จับมือกันพุ่งแรง กูรูชี้หุ้นยังมี upside สูง-ติดโผกลุ่มปันผลเด่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 137.50 บาท บวก 6.50 บาท หรือ 4.96% สูงสุด 139 บาท ต่ำสุด 128 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7.98 พันล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 49.50 บาท บวก 3.75 บาท หรือ 8.20% สูงสุด 49.50 บาท ต่ำสุด 44.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.6 พันล้านบาท 

โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ม.ค.) ว่า ในส่วนของ INTUCH และ ADVANC ล่าสุดนักวิเคราะห์กลุ่มสื่อสารได้มีการปรับประมาณการกำไรลง ทำให้อัตราเงินปันผลลดลงเหลือราว 7% แต่ก็ยังเป็นอัตราที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของตลาด ทั้งยังมี upside เหลืออยู่สูงมาก โดย INTUCH upside สูงถึง 48.6% ส่วน ADVANC upside กว่า 26% นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงๆ ก็สามารถเข้าซื้อสะสมได้

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะ”ซื้อ”หุ้น ADVANC คาดกำไรปกติไตรมาส 4/58 เพิ่มขึ้น 17.3% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 2.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.0 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2016 ปรับกำไรปกติลงอีก 11% เหลือ 3.52 หมื่นล้านบาท บนสมมติฐานว่าบริษัทรักษาฐานลูกค้า 2G ได้ครึ่งเดียว ทำให้ราคาเป้าหมายลดจากเดิม 230 บาทเหลือ 195 บาท แต่ถ้าบริษัทสูญเสียลูกค้า 2G ที่มีอยู่ทั้งหมด 12 ล้านราย (รายได้หายไป 2 หมื่นล้านบาท) เป้าหมายจะเหลือ 150 บาท ยังสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งคิดเป็น PE 11 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่อยู่ที่ 18-20 เท่า และคิดเป็น Dividend yield เฉพาะงวด 2H15 ถึง 4.6% (คาดจ่าย 6 บาท/หุ้น)

ด้านบล.โกลเบล็ก คงคำแนะนำ”ซื้อ”หุ้น ADVANC ปรับลดราคาเป้าหมายปี 59 เท่ากับ 192 บาท จากความไม่แน่นอนและความเสี่ยงในตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการปี 59 ลง 36% จาก 300 บาท เหลือ 192 บาท ซึ่งประเมินจากวิธี FCF ปี 59 (WACC ที่ 10% และ Terminal Growth ที่ 1%) ซึ่งสูงกว่าราคาปิดปัจจุบัน ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีบริษัทยังคงให้อัตราปันผลที่ระดับสูง 9.4% โดยคาดเงินปันผลทั้งปี 12.39 บาทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 6.50 บาท

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิปี 58 ราว 37,145 ล้านบาท โดยไตรมาส 4/58 เป็นช่วง High-season ทำให้รายได้บริษัทเพิ่มขึ้นโดยปัจจัยหลักยังคงมาจากรายได้จากการให้บริการข้อมูลที่ยังคงทรงตัวในระดับสูงจากการทำ Market-Penetration รวมถึงรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือที่ได้แรงหนุนจาก Iphone6 ที่เข้ามาช่วงปลายไตรมาส 3

นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าสงครามราคามีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากกลยุทธ์ลดราคาทำให้ลูกค้าที่มีความอ่อนไหวต่อราคามีโอกาสย้ายผู้ให้บริการได้เร็วที่สุดรวมถึงราคาสูงสุดของแพ็คเกจที่มีข้อกำหนดไม่ให้สูงกว่าราคา 3G จะทำให้รายได้ปี 59 ไม่เติบโตนัก นอกจากนี้คาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายค่า Subsidize โทรศัพท์มือถือราว 4,500 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 1/59 (จากสมมุติฐานผู้ใช้บริการ 50% บนคลื่นความถี่ 900MHz) ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 59 ลดลงเช่นกันโดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 59 ราว 34,338 ล้านบาทลดลง 7% จากปีก่อน

 

Back to top button