ORN บวกแรง 10% ลุ้นบอร์ดไฟเขียว “ปันผล” ย้ำยอดขายปี 67 พุ่งนิวไฮ 2.5 พันล้าน
ORN วิ่งคึก 10% จับตาบอร์ดแจ้งงบปี 66 และอนุมัติจ่ายปันผล 22 ก.พ.นี้ ย้ำแผนปี 67 ตั้งเป้ารายได้รวมโต 1,841 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 800 ล้านบาท โกยยอดขายปี 67 นิวไฮพุ่ง 2,507 ล้านบาท เล็งเปิด 6 โครงการใหม่ 4,302 ล้านบาท พร้อมลุยโรงเรียนนานาชาติ Mill Hil ปี 68
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.พ.67) ราคาหุ้น บริษัท บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN ณ เวลา 10:24 น. อยู่ที่ระดับ 1.44 บาท บวก 0.13 บาท หรือ 9.92% สูงสุดที่ระดับ 1.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.32 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110.55 ล้านบาท
นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN เปิดผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ว่า บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบการเงินปี 66 และพิจารณาจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 ก.พ.67 ซึ่งในปี 66 บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งจะมีบันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจบ (One Time Payment) เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามหากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว เชื่อว่าผลการดำเนินงานจะใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับในปี 66 บริษัทมีการเปิดโครงการจำนวนมาก แม้จะมีการเลื่อนการเปิดตัวโครงการแนวราบ 2 โครงการ แต่ยังคงอยู่ในกรอบเพียง 3 เดือน โดยเลื่อนเปิด 1 โครงการ จากต้นไตรมาส 4/66 ไปในช่วงปลายไตรมาสแทน และเลื่อนเปิดอีก 1 โครงการ จากปลายไตรมาส 4/66 ไปเป็นต้นไตรมาส 1/67 แทน
โดยบริษัทมียอดขายในปี 66 อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 50% จากปี 65 ซึ่งเป็นการเติบโตที่ชัดเจนมากที่สุด คือ ยอดขายในกลุ่มคอนโดมิเนียม มีอัตราการเติบโตประมาณ 3 เท่า จากปี 65 ซึ่งมาจากปัจจัยบวก คือ 1.การเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 2.โควิด-19 ผ่อนคลายลง และ 3.กลุ่มลูกค้าจีนเริ่มกลับเข้ามา หลังรัฐบาลออกนโยบายการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมามากขึ้น ซึ่งบริษัทเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องถึงปี 67 ด้วย
นายอรรคเดช กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานในปี 67 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 1,841 ล้านบาท เติบโตจากปี 66 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่กว่า 800 ล้านบาท และวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในปี 67 ไว้ที่ 2,507 ล้านบาท เติบโตจากปี 66 และจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,302 ล้านบาท
ประกอบด้วย โครงการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 5 โครงการ และโครงการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอีก 1 โครงการ เป็นโครงการประเภทแนวราบ 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,379 ล้านบาท และโครงการประเภทคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,923 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปี 67 บริษัทจะมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ซึ่งล่าสุดเมื่อเดือน ม.ค.67 ที่ผ่านมา บริษัทได้เซ็นสัญญาเพื่อจะนำหลักสูตรของโรงเรียนนานาชาติ Mill Hil สัญชาติอังกฤษ มาเปิดสอนในโรงเรียนที่บริษัทกำลังจะพัฒนาในพื้นที่ 40 ไร่ จากปัจจุบันที่บริษัทมีที่ดินที่เตรียมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในมือประมาณ 600 ไร่ ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าว จะเริ่มเปิดให้บริการในปี 68
หลังจากนั้นอาจจะมีการพัฒนาเป็น Life Style Market โครงการที่อยู่อาศัย เพื่อเสริมความครบวงจร บนที่ดินที่เหลือ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ Life Style Market คาดการณ์ว่าในช่วงกลางปี 67 จะเริ่มให้บริการแห่งแรกบนที่ดิน 4-5 ไร่ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ส่วนแพลตฟอร์ม PROPSQUARED เป็นสื่อกลางที่ให้บริการลงประกาศซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งจะเปิดตัวในเดือน มี.ค.67