พาราสาวะถี

หลังการเดินทางกลับของ สมเด็จฮุน เซน ที่ได้เข้าเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร ถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า มีคำถามว่าเชื่อตามที่อดีตผู้นำกัมพูชาบอกหรือไม่ว่า ไม่มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง


หลังการเดินทางกลับของสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือ สมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา ที่ได้เข้าเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร ถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า มีคำถามว่าเชื่อตามที่อดีตผู้นำกัมพูชาบอกหรือไม่ว่า ไม่มีการพูดคุยกันเรื่องการเมือง หากมองบริบทปัจจุบันที่ทักษิณเป็นผู้ได้รับการพักโทษและอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากอาการป่วย โดยมารยาทก็เป็นไปได้ว่าจะไม่มีการหารือกันในประเด็นดังว่า แต่หลังจากนี้อาจไม่แน่

ไม่เพียงแต่ได้พบปะ พูดคุยในฐานะกัลยาณมิตรที่คบค้าสมาคมกันมานานกว่า 30 ปีแล้วเท่านั้น สมเด็จฮุน เซน ยังบอกด้วยว่าได้เชิญหลานสาวอันหมายถึง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางไปเยือนกัมพูชาในกลางเดือนหน้าด้วย ทำให้มองกันต่อไปว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทูตที่ใช้สายสัมพันธ์ของอดีตนายกฯ ในการเชื่อมสัมพันธ์มิตรประเทศในย่านอาเซียนให้กลับมามีความแนบแน่นกันเหมือนเดิมหรือไม่ หลังจากที่กระท่อนกระแท่นมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี

ต้องไม่ลืมว่า นอกเหนือจากสมเด็จฮุน เซน แล้ว ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ว่า คนที่นับถือเป็นพี่น้องในระดับผู้นำย่านอาเซียนอีกรายคือ สุลต่านบรูไน ซึ่งก็มีข่าวมาตลอดระหว่างที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ อดีตนายกฯ ของไทยแวะเวียนมาพักและรับประทานอาหารกับผู้นำประเทศในย่านนี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะที่บรูไน แน่นอนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนอกจากจะดีขึ้นหลังจากได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว การอาศัยคอนเนคชั่นส่วนตัวของอดีตนายกฯ มาช่วยผลักดันก็จะมีให้เห็นมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวคงจะเป็นไปในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ เพื่อไม่ให้เกิดภาพการแย่งซีนของ เศรษฐา ทวีสิน ที่ถือเป็นผู้ซึ่งได้รับการเลือกจากนายใหญ่ให้มาทำงานบริหารประเทศภายใต้บริบทการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บทบาทที่จะเข้มข้นขึ้นของนายกฯ และรัฐมนตรีในส่วนของเพื่อไทยคือ การชี้แจง อธิบายประเด็นทางการเมืองต่าง ๆ ที่มีการตั้งเป็นข้อคำถามเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต

การเรียกร้องเรื่องลดดอกเบี้ย เศรษฐาได้แสดงอาการขึงขังให้เห็นแล้ว ตามมาด้วยท่วงทำนองของ ภูมิธรรม เวชยชัย และ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ที่ช่วยกันตอกย้ำการเดินหน้าแน่ของโครงการสำคัญนี้ของรัฐบาล ขณะที่นายกฯ น้อยอย่าง นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็จะทำหน้าที่ส่งสัญญาณสำคัญทางการเมืองแทนเศรษฐาในเรื่องที่สำคัญถี่ขึ้น ขณะที่งานในสภาก็มีการขันน็อตให้ สส.ของพรรคเพื่อไทยช่วยกันทำงานให้แข็งขันขึ้นด้วยเช่นกัน

ที่จะมีการปรับเปลี่ยนในเร็ว ๆ นี้คงเป็นตำแหน่งประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาลที่ อดิศร เพียงเกษ มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เพื่อไทยจึงได้มีการวางตัว วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.ของพรรคให้มาทำหน้าที่แทน โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธ ถือว่าเป็นการวางตัวที่เหมาะสม เพราะวิสุทธิ์เคยทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรในยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้ว ย่อมเข้าใจกลไกและกลเกมในสภาเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ การจัดวางตัวบุคคลเพื่อเคลื่อนงานในสภาให้แข็งแรงขึ้นนั้น เนื่องจากมีการประเมินแล้วว่าหลังการพักโทษของทักษิณ ฝ่ายค้านก็จะหันมาจับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ มาโจมตีถี่ขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องมีทีมทำงานในการตอบโต้โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยที่จะเห็นได้ว่าวันก่อน ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคได้มีการแถลงถึงอาการป่วยของทักษิณอย่างละเอียดในประเด็นเกี่ยวกับการใส่ที่ดามคอและสายคล้องแขน รวมถึงการติดเชื้อโควิดสามรอบจนเกิดภาวะลองโควิด

ส่วนท่าทีของพวกลากตั้งที่ส่วนใหญ่เป็นพวกขาประจำขู่ว่าจะมีการนำประเด็นของทักษิณไปอภิปรายในการยื่นซักฟอกแบบไม่ลงมติวันที่ 25 มีนาคมนั้น ไม่ได้ทำให้ทีมกุนซือของพรรคนายใหญ่หวั่นไหว เนื่องจากมีการพูดคุย ทำความเข้าใจกับเสียงข้างมากแล้ว ไม่มีใครติดใจ และไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งอีก จึงรอเพียงเวลาที่จะหมดวาระเท่านั้น อีกด้านก็มีการรับข้อมูลจากพวกลากตั้งที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้อ่านเกมของพวกสุดโต่งได้ทะลุทุกเรื่อง

จะเห็นได้ว่าก่อนที่จะถึงกำหนดการซักฟอกของพวกลากตั้ง เศรษฐาได้วางคิวงานไว้ยาวเหยียดเป็นการตอกย้ำภาพความตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก ไล่เรียงตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ 27-29 กุมภาพันธ์ จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งก่อนเดินทางในวันที่ 27 นั้น ยังโชว์ลูกขยันด้วยการเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน หลังจากนั้นต้นเดือนมีนาคมวันที่ 2 จะลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และร้อยเอ็ด

ชีพจรลงเท้าขึ้นเหนือล่องใต้ไปภาคอีสาน บวกกับการเดินทางไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เมื่อกลับจากสองจังหวัดอีสานแล้ว รุ่งขึ้นก็นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะรัฐมนตรี จากนั้น 4-14 มีนาคม มีคิวยาวในต่างแดน เริ่มจากการร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ตามมาด้วยการเดินทางเยือนประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี เรียกได้ว่าตุนผลงานไว้เต็มที่ หลังจากกลับมาแล้ว น่าจะเป็นจังหวะเดียวกับที่คณะอนุกรรมการรวบรวมความคิดเห็นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมีบทสรุปพอดี ซึ่งอาจจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่เพื่อเคาะความชัดเจนกันในช่วงก่อนที่จะมีการซักฟอกของพวกลากตั้ง

แต่ยังมีโจทย์ใหญ่ที่เศรษฐาคงต้องเร่งแก้ไข ทำความเข้าใจคือ การขวางของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ใช่แค่ประเด็นเศรษฐกิจไม่วิกฤต ล่าสุด เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ก็ไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติยืนยันจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ทางรัฐบาลได้เรียกร้อง พร้อมบอกด้วยว่า “ไม่ได้ดันทุรัง” มีการอ้างเหตุผลต่าง ๆ แต่ที่นายกฯ บอกนักข่าวว่าต้องแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจกันต่อเนื่องซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติไม่มีอยู่ในหัวคือ ความเดือดร้อนของประชาชน ส่งสัญญาณกันแบบนี้ จากที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่แน่ว่าสุดท้ายอาจถึงจุดแตกหักเข้าสักวันก็เป็นได้

Back to top button