ม.หอการค้าฯชี้ช้อปช่วยชาติเงินสะพัด 1.75 หมื่นลบ. หนุนจีดีพีเพิ่ม 0.1%

ม.หอการค้าฯชี้ช้อปช่วยชาติเงินสะพัด 1.75 หมื่นลบ. หนุนจีดีพีเพิ่ม 0.1%


นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจการจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลปีใหม่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปช่วยชาติ” ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ถึง 79.13% ระบุว่าไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว เนื่องจากเหตุผลต่างๆ เช่น รายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี, ซื้อประกันและกองทุนไปแล้ว, รัฐบาลบอกช้าไป ทำให้ซื้อสินค้าไปแล้ว และไม่มีเงินในการจับจ่ายใช้สอย

ขณะที่ประชาชนอีก 20.78% ระบุว่า ได้รับประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ เพราะมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี และทำให้ได้รับส่วนลดภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้หักลดหย่อนอยู่แล้ว

ทั้งนี้ หากถามเฉพาะลงไปในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ ว่าจะซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มเติมจากเดิมที่วางแผนไว้หรือไม่ จากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการดังกล่าว พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 57.13% ตอบว่าไม่ซื้อเพิ่ม เพราะได้ซื้อสินค้าไปก่อนหน้านี้แล้ว และมีการวางแผนซื้อสินค้าไว้เกิน 15,000 บาทอยู่แล้ว จึงไม่ซื้อเพิ่ม ส่วนอีก 42.87% ตอบว่าจะซื้อเพิ่มขึ้น เพราะต้องการนำไปลดหย่อนภาษี, การจัดโปรโมชั่นในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่ามีความน่าสนใจ และต้องการออกใบกำกับภาษีให้กับญาติที่ต้องการนำไปใช้หักภาษี เป็นต้น

อย่างไรก็ดี จากมาตรการช้อปช่วยชาตินี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ประเมินว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิลดหย่อนจากมาตรการนี้ 1.86 ล้านคน คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจากการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นราว 17,500 ล้านบาท แต่จะทำให้รัฐสูญรายได้จากการลดหย่อนภาษีราว 3,100 ล้านบาท โดยมาตรการนี้ประเมินว่ามีผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2558 เพิ่มขึ้น 0.1%

ทั้งนี้ ประเมินจากจำนวนผู้เสียภาษีทั้งหมด 3.25 ล้านคน ซึ่งหากทุกคนมาใช้สิทธิลดหย่อนเต็มจำนวนทั้ง 15,000 บาท จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัด 48,000 ล้านบาท และรัฐเสียรายได้ราว 4,700 ล้านบาท

Back to top button