เปิด 3 บจ. “ไฟแนนซ์-แบงก์” อานิสงส์ดัชนีราคารถมือสอง ม.ค. พุ่ง 16% ชู KBANK อัพไซด์ 25%
เปิด 3 บจ. “ไฟแนนซ์-แบงก์” อานิสงส์ดัชนีราคารถมือสอง ม.ค. พุ่ง 16% โบรกชูหุ้นท็อปปิก MTC-KBANK-TTB แนะนำซื้อยังมีอัพไซด์สูงเกิน 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีราคารถมือสองเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 81.91 เติบโต 16% ปรับตัวขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 ตามคาดการณ์ ซึ่งแบ่งเป็นรถยนต์นั่งมือสองเติบโต 9% เทียบเดือนธันวาคม และรถบรรทุกนั่งมือสองเติบโต 30% เทียบเดือนธันวาคม
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ว่าฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นกลางต่อดัชนีราคารถยนต์มือสองที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเดือนมกราคมตามคาดการณ์ รับอานิสงส์จากปัจจัยฤดูกาล เนื่องจากราคารถมือสองจะดีขึ้นในช่วงต้นปีตามการใช้จ่าย แต่มีโอกาสปรับตัวลงในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม จากความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ หรือซื้อรถน้อยในช่วงฤดูกาลเปิดเทอมก่อนที่จะกลับมาดีขึ้นในช่วงปลายปีจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่กลับมาเป็นปกติ
โดยผลดังกล่าวทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มีแนวโน้มปรับน้ำหนักการลงทุนกลุ่มการเงิน (Finance) จากเดิมมากกว่าตลาดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และขาดทุน รวมทั้งด้วยค่ารถยึดที่ยังสูง กระทบต่อผู้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออย่าง บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือTHANI แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 1.90 บาท
ส่วน บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SAWAD แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 39.00 บาท บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR แนะนำ “ถือ”ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท
ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์ยังชอบ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)หรือMTCจาก NPL ที่เข้าสู่วัฏจักรขาลงอย่างเด่นชัดโดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52.00 บาท และเมื่อเทียบราคาเป้าหมายกับราคาปิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 ที่ระดับ 45.75 บาท พบว่าหุ้นมีอัพไซด์มากถึง14%
สำหรับกลุ่มธนาคาร (Bank) ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นกลางเพราะคาดขาดทุนรถยึดน่าจะลดลงจากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้าตามฤดูกาล ดังนั้นเรียงผลกระทบตามสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อจากมากไปหาน้อย คือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPมีสัดส่วน 48% ของสินเชื่อรวม, บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ TISCO โดยมีสัดส่วน 46% ของสินเชื่อรวม, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)หรือ TTBมีสัดส่วน 30% ของสินเชื่อรวม,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)หรือBAY มีสัดส่วน 21% ของสินเชื่อรวม, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)หรือSCB มีสัดส่วน 7% ของสินเชื่อรวม
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงน้ำหนักการลงทุนลงเป็น “เท่ากับตลาด” โดยให้เป็นหุ้น Top Pick เลือก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 155.00 บาท เมื่อเทียบราคาปิดเมื่อวัน 1 มี.ค. 67 ที่ระดับ 123.50 บาท ยังคงเหลืออัพไซด์ 25% และ TTB แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.10 บาท เมื่อเทียบราคาปิดเมื่อวัน 1 มี.ค.67 ที่ระดับ 1.85 บาทยังคงเหลืออัพไซด์ 13%