หุ้นซิ่ง วิ่งแรง

เมื่อสถานการณ์ในช่วงเดือนธ.ค. 58 ไม่สู้ดี ทำให้ราคาหุ้นต่างค่อยๆ ปรับตัวลง (Side Way Down) แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นมีหุ้นที่ปรับตัวลง ก็ต้องมีหุ้นที่ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” มีการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ที่สามารถทนแรงกดดันดังกล่าวได้อย่างดี และสามารถปรับตัวขึ้นสวนทางภาพรวมตลาดได้กว่า 10%


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยช่วงเดือนธันวาคม 2558 ไม่ค่อยสวยงานสักเท่าไหร่  เพราะเมื่อมองการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างเป็นระบบ จะเห็นว่าทิศทางการเคลื่อนไหวเป็นขาลง โดยวันที่ 30 พ.ย. 58 ดัชนีปิดอยู่ที่ระดับ 1,359.70 จุด ขณะวันที่ 30 ธ.ค. 58 ดัชนีปิดอยู่ที่ระดับ 1,288.02 จุด ลบไป 71.68 จุด หรือลงไป 5.28%

เหตุที่ดัชนีปรับตัวลง ปัจจัยหลักๆ ล้วนเป็นผลมาจากข่าวร้ายหลายเรื่อง นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง เกิดภาวะเงินทุนไหลออก ตัวเลขกำไรของ บจ. มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งเม็ดเงินทุนของกองทุน LTF และ RMF ไม่ช่วยดันตลาดหุ้น สร้างแรงถ่วงให้ดัชนีเสียทรงไป

เมื่อสถานการณ์ในช่วงเดือนธ.ค. 58 ไม่สู้ดี ทำให้ราคาหุ้นต่างค่อยๆ ปรับตัวลง (Side Way Down) แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นมีหุ้นที่ปรับตัวลง ก็ต้องมีหุ้นที่ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” มีการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ที่สามารถทนแรงกดดันดังกล่าวได้อย่างดี และสามารถปรับตัวขึ้นสวนทางภาพรวมตลาดได้กว่า 10%  อาทิ INET, BEAUTY, JWD, THCOM, AAV, TSC, FANCY, MPIC, SIM, COM7, MAJOR, SHANG, BCH, EPG, TOP, J, RML, AOT, VIBHA และ AIT

ที่สำคัญจากหุ้น 20 ตัว พบว่ามี 5 ตัวแรก ราคาซิ่ง วิ่งแรง กว่าปกติ ซึ่งมีการปรับตัวขึ้นมากกว่า 15% ได้แก่

 

ตัวแรกINET หรือ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 30 พ.ย. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.42 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือขึ้นไป 20.47% สืบเนื่องจากผลประกอบการกลับมาเทิร์นอะราวด์ อีกทั้งบริษัทมีข่าวดีจากที่อนุมัติจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท ไอเน็ต แมนเนจด์ เซอร์วิสเซส จำกัด เพื่อให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการบริหารจัดการระบบที่เป็นภารกิจสำคัญของธุรกิจแบบครบวงจร มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะถือหุ้น 50% ร่วมกับบริษัท ที.เอ็น.เอฟไอ-โซลูชั่น จำกัด ถือหุ้น 50%

ตัวที่สอง BEAUTY หรือ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 30 พ.ย. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.92 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.83 บาท หรือขึ้นไป 16.87% สืบเนื่องจากมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2558 กำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ประกอบกับผู้บริหารระบุว่า รายได้ในปี 59 โตไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากบริษัทยังมีช่องทางในการขยายไปในต่างจังหวัดได้อีกมาก และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนากาบุคคลกรให้มีความสามารถในการขายและมีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์มากขึ้น จะช่วยส่งผลให้ยอกขายของบริษัทเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ตัวที่สาม JWD หรือ บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 30 พ.ย. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 19.60 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 3.30 บาท หรือขึ้นไป 16.84% สืบเนื่องจากอานิสงส์ของการขยายธุรกิจให้บริการรับฝากและบริหารยานยนต์เชิงรุกแบบ On-Site Service ในพื้นที่โรงงานและลานจอดพักรถของผู้ผลิตยานยนต์ โชว์ผลงานครึ่งปีหลัง 58 คว้างานบริหารจัดการชิ้นส่วนยานยนต์ในพื้นที่โรงงานนิสสัน ย่านบางนา – ตราด กม.22 และบริหารพื้นที่ลานจอดพักรถ 25 ไร่ ภายในโรงงานอีซูซุ ย่านสำโรง พร้อมอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มอีก 4-5 ราย ทั้งที่สนใจให้เข้าไปรับบริหารจัดการยานยนต์ในโรงงานของลูกค้าและต้องการเข้ามาเช่าพื้นที่ลานจอดพักรถของ JWD ในเขตพื้นที่นิคมฯ แหลมฉบังและบางนา-ตราด กม.19 คาดช่วยหนุนสัดส่วนการใช้พื้นที่จอดพักรถของบริษัทฯ ในปี 59 เกือบเต็ม 100%

ตัวที่สี่ THCOM หรือ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 30 พ.ย. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 24.90 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 29 บาท เพิ่มขึ้น 4.10 บาท หรือขึ้นไป 16.47% สืบเนื่องจากนักลงทุนยังมั่นใจในตัวบริษัทอยู่ หลังมีการต่อสัญญากับทาง NBN ออสเตรเลียแล้ว และกำลังเจรจาต่อสัญญากับลูกค้า iPSTAR ไปถึงปี 2564 ประกอบกับกำไรสุทธิยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง

ตัวที่ห้าAAV หรือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 30 พ.ย. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.56 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 58 ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.69 บาท หรือขึ้นไป 15.13% สืบเนื่องจากอานิสงส์ที่ในปี 59 บริษัทคาดรายได้เติบโตขึ้นอีก 16% ตามจำนวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 16.5 ล้านคน จากปีนี้ 14.5 ล้านคน ส่วนอัตรากำไรสุทธิน่าจะดีขึ้นเป็น 10-12% จากปีนี้อยู่ที่ 10% จากแผนการปรับราคาตั๋วโดยสารขึ้นอีก 3-5% จากปีนี้ปรับขึ้นราคาเฉลี่ย 4% และการแข่งขันในธุรกิจลดความรุนแรงลง อีกทั้งจะมีไฟลท์บิน AEC และ CLMV มากขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปภูมิภาคอินโดจีน

 

ข้อมูลหุ้นที่ปรากฏเป็นการวัดความแข็งแกร่งของราคาหุ้นที่ยังสามารถปรับตัวขึ้นแรงได้ถ้ำกลางภาวะตลาดหุ้นย้ำแย่

ส่วนราคาหุ้นรอบใหม่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จากข่าวสารของบริษัทที่เข้ามาสนับสนุนต่อเนื่อง

 

ตารางหุ้นกลุ่ม SET ที่ปรับตัวขึ้นเกิน 10% ในเดือนธันวาคม 2558

หลักทรัพย์ ราคาหุ้น เปลี่ยนแปลง
30-ธ.ค.-58 30-พ.ย.-58 บาท %
INET 4.12 3.42 0.70 20.47
BEAUTY 5.75 4.92 0.83 16.87
JWD 22.90 19.60 3.30 16.84
THCOM 29.00 24.90 4.10 16.47
AAV 5.25 4.56 0.69 15.13
TSC 13.20 11.50 1.70 14.78
FANCY 2.80 2.44 0.36 14.75
MPIC 1.94 1.70 0.24 14.12
SIM 1.30 1.14 0.16 14.04
COM7 5.15 4.52 0.63 13.94
MAJOR 35.25 31.00 4.25 13.71
SHANG 75.00 66.00 9.00 13.64
BCH 9.05 8.00 1.05 13.13
EPG 13.10 11.60 1.50 12.93
TOP 66.00 58.50 7.50 12.82
J 3.06 2.74 0.32 11.68
RML 1.25 1.12 0.13 11.61
AOT 346.00 311.00 35.00 11.25
VIBHA 1.92 1.73 0.19 10.98
AIT 28.00 25.25 2.75 10.89

Back to top button