WPH ลุยขยายบริการสุขภาพครบวงจร รับดีมานด์ลูกค้า “ไทย-ต่างชาติ” ดันรายได้ปีนี้โต 20%
WPH กางแผนปี 67 เดินหน้าขยายบริการสุขภาพครบวงจร รองรับความต้องการลูกค้าคนไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น พร้อมเตรียมขยายพอร์ตรับผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มเติมเป็นครั้งแรก ตั้งเป้ารายได้โตเกิน 20% ผลักดันผลงานออลไทม์ไฮ
นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีเติบโตเกิน 20% เนื่องจากผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติ มีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว จากมาตรการฟรีวีซ่า
อีกทั้งหลังเปิดให้บริการโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่ม รองรับความต้องการลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายพอร์ตรับผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มเติมเป็นครั้งแรก โดยจะเป็นการเช่าอาคารนำมาปรับปรุงใหม่ เพื่อรองรับผู้ป่วยนอก (OPD) หรือผู้ป่วยทั่วไปก่อน ในระหว่างรอการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่บริษัทฯ มีแผนจะลงทุนขยายอาคารโรงพยาบาล เพื่อรับผู้ป่วยประกันสังคม ซึ่งได้ซื้อที่ดินจัดเตรียมไว้แล้ว เป็นทำเลที่แยกจากโรงพยาบาลอย่างชัดเจน คาดจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 1-2 ปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มด้านการแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น เช่น ห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด (Cardiac Catheterization Lab หรือ Cath Lab) ในโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง และ การบำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy) ที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าในการร่วมมือกับ บริษัท เอกชัย การแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เพื่อลงทุนประกอบธุรกิจโรงพยาบาลคูน อ่าวนาง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ รองรับลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงรองรับเทรนด์ Wellness ที่กำลังมาแรง จะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2567 และคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/2568 ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของกลุ่มบริษัท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
อนึ่ง ผลการดำเนินงานปี 2566 มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 1,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 66 ล้านบาท และจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 50 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผลหรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.01 บาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 12 มีนาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567