SCC:ปีนี้โครงการภาครัฐ-เอกชนฟื้นหนุนโบรกฯแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 580 บาท

SCC ปี 59 คาดว่าจะเติบโตได้จากโครงการภาครัฐและการฟื้นตัวของการใช้ภาคเอกชนที่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 59 โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยบริเวณแนวรถไฟฟ้า สำหรับแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมี ยังไปได้ดีในส่วนของผลิตภัฑณ์ PE แต่ในส่วน PP และ PVC จะมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากอยู่ในภาวะอุปทานล้นเกิน คาดว่าจะมีรายได้จาก Chandra Asri เข้ามาเพิ่มหลังขยายกำลังการผลิตคอขวดแล้วเสร็จในปลายปี 58 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตของส่วนนี้เพิ่มขึ้น 40%


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.) ว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC สรุปจากโรดโชว์ในงาน POA กับ DBSV ที่สิงคโปร์ โดยทาง SCG ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เติบโตในภูมิภาคอาเซียนและจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่โภคภัณฑ์ ซึ่งกลุ่มบริษัทมีการลงทุนในภูมิภาคนี้มาหลายปีแล้ว และยังคงขยายการลงทุนต่อไป การลงทุนภาครัฐหนุนอุปสงค์ซีเมนต์ แต่ในปี 58 ปริมาณการใช้ซีเมนต์ทรงตัวเพราะการใช้ในภาคก่อสร้างที่พักอาศัยและลงทุนภาคเอกชนอ่อนแอ

ส่วนปี 59 คาดว่าจะเติบโตได้จากโครงการภาครัฐและการฟื้นตัวของการใช้ภาคเอกชนที่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 59 โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยบริเวณแนวรถไฟฟ้า สำหรับแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมี ยังไปได้ดีในส่วนของผลิตภัฑณ์ PE แต่ในส่วน PP และ PVC จะมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากอยู่ในภาวะอุปทานล้นเกิน คาดว่าจะมีรายได้จาก Chandra Asri เข้ามาเพิ่มหลังขยายกำลังการผลิตคอขวดแล้วเสร็จในปลายปี 58 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตของส่วนนี้เพิ่มขึ้น 40%

คาดปริมาณการใช้ซีเมนต์ในประเทศปี 59 จะเติบโต 3-5% โดยหลักมาจากการใช้ของภาครัฐ บริษัทยังคงแผนลงทุนใน 5 ปีข้างหน้าไว้ที่ 2.5 แสนล้านบาท (ขยายการผลิตและเข้าซื้อกิจการ)

คำถาม ถามบ่อย : 1. ทำไมบริษัทจึงจัดสรรเงินลงทุนไปในธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่มีอัตรากำไรต่ำ? ผู้บริหารตอบประเด็นนี้ว่า เม็ดเงินลงทุนส่วนนี้ใหญ่เพราะเป็นการลงทุนโครงการ Greenfield ในภูมิภาค และใช้เวลาในการสร้างกำไร แต่คาดว่าอัตรากำไรของธุรกิจกลุ่มนี้จะดีขึ้นในปี 59

2. แนวโน้มธุรกิจซีเมนต์ในอินโดนีเซียเป็นอย่างไร และกลยุทธ์บริษัทคืออะไร? ผู้บริหารให้มุมมองว่าการแข่งขันด้านราคาในอินโดนีเซียจะสูงขึ้นเพราะอุตสาหกรรมอยู่ในภาวะอุปทานล้นเกิน แต่ที่ตั้งโรงงานของ SCG อยู่ในทำเลที่ตลาดมีการแข่งขันต่ำจากผู้ประกอบการรายเดิมเพราะมีข้อจำกัดด้านการขนส่ง

3. โครงการลงทุนปิโตรเคมีครบวงจรในเวียดนามมีความคืบหน้าอย่างไร? ผู้บริหารกล่าวว่า บริษัทกำลังหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่มาทดแทน Qatar Petroleum ที่ถอยออกไปเมื่อเดือนธ.ค.2014 เพราะกลุ่มบริษัทเปลี่ยนแผนกลยุทธ์ ซึ่งทำให้โครงการลงทุนต้องล่าช้าออกไป มูลค่าโครงการอยู่ที่ราว 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทยอยก่อสร้างและลงทุน 5 ปี 

 

Back to top button