ทองคำขึ้น & หุ้น AURA ลง.!?
ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา “ราคาทองคำตลาดโลก” ปรับตัวขึ้นกว่า 5-6% แต่ราคาหุ้น AURA ผู้จำหน่ายปลีกทองรูปพรรณ ปรากฏว่ามีทิศทางตรงกันข้าม
ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา “ราคาทองคำตลาดโลก” ปรับตัวขึ้นกว่า 5-6% แต่ราคาหุ้นบริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA ผู้จำหน่ายปลีกทองรูปพรรณและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องพร้อมบริการแบบครบวงจร ปรากฏว่ามีทิศทางตรงกันข้ามคือราคาหุ้น AURA ปรับลงกว่า 5%
อาจพอสรุปเบื้องต้นได้ว่า..ราคาทองคำที่มีแนวโน้มขาขึ้นอาจลดทอนประสิทธิภาพการบริหารเงินทุนบริษัท เนื่องจากอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังจะลดลง จากความกังวลตรงนี้เองที่อาจทำให้นักลงทุนเทขายหุ้น AURA เพื่อลดความเสี่ยงออกไปก่อน..!?
อย่างไรก็ดีผู้บริหาร AURA มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์และให้ข้อมูลกับบรรดานักลงทุนพอสรุปได้ว่าผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 10-15% อัตรากำไรขยายตัวดีขึ้น
มีการตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตขายฝากทองเป็น 3,800 ล้านบาท มีแผนเปิดหน้าร้านใหม่ 78 แห่ง ช่วงปี 2567 ทำให้จำนวนสาขารวมเพิ่มขึ้นเป็น 484 แห่ง พร้อมนำกลยุทธ์ธุรกิจมุ่งเน้นการขายขาด (Resale) และการขายฝาก (Financing) มาใช้ช่วงที่ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น
กรณีดังกล่าวบล.กสิกรไทย สะท้อนมุมมองเชิงบวกเล็กน้อย โดยมองว่ากิจกรรมธุรกิจที่มากขึ้น ทั้งในส่วนการขายขาดและขายฝากทอง บ่งชี้ถึงความสามารถของ AURA ในการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อดึงดูดลูกค้าจากโรงรับจำนำและร้านทองขนาดเล็ก
ส่วนงบดุล AURA ถือว่าแข็งแกร่งมากพอจะเพิ่มการเติบโตของพอร์ตจำนำทอง และการขยายร้านขายทองแบบเชิงรุกจะทำให้บริษัทอยู่ในตำแหน่ง ที่จะดึงดูดดีมานด์การซื้อทองคำให้กลับมาเมื่อสภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น โดยน่าจะเกิดขึ้นช่วงครึ่งหลังของปีนี้
แต่ปัจจัยที่สร้างความกังวล คือราคาทองคำที่มีแนวโน้มขาขึ้น อาจลดประสิทธิภาพการบริหารเงินทุนบริษัท เนื่องจากอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังลดลง
ขณะที่มูลค่าสินค้าคงคลังจะเพิ่มขึ้นและผลบวกด้านการเงิน จากการขายขาดที่มากขึ้นเป็นเรื่องยากที่จะประเมินได้และอาจส่งผลให้ตลาดมองข้ามไป
นั่นจึงเป็นที่มาของการปรับลดประมาณการกำไรปกติ AURA ช่วง 3 ปีนับจากนี้ กล่าวคือ 2567 ปรับลดลง 2% ปี 2568 ปรับลดลง 3.1% และปี 2569 ปรับลดลง 2.5% เพื่อสะท้อนสมมติฐานเชิงอนุรักษนิยมต่อการขยายตัวของอัตรากำไรจากกิจกรรมการขายขาดที่มากขึ้น
อย่างก็ดีปัจจัยเชิงบวกหุ้น AURA อยู่บนเงื่อนไขกำไรที่มากขึ้นจากการขยายสาขาเชิงรุกปีที่ผ่านมา ตามด้วยราคาทองคำ ที่ทรงตัวมากขึ้น และการบริโภคภายในประเทศดีขึ้น จากมาตรการอีดฉีดเงินของรัฐบาลที่จะมีมากขึ้น
งานนี้จึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่จะมองว่าราคาหุ้น AURA ที่ปรับลง..จะถือเป็นโอกาสได้หรือไม่..เท่านั้นเอง.!?