SET ปิดลบ 9 จุด นักลงทุนขายทำกำไร-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน
SET ปิดลบ 9 จุด นักลงทุนขายทำกำไร-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน ฟากนักลงทุนรอติดตาม GDP ไตรมาส 4/66 พ่วงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์อิงทางลง ให้กรอบแนวรับแรก 1,368 จุด หากหลุดให้ถัดไปที่ 1,355 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 และ 1,390 จุด
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
SET ปิดวันนี้(25มี.ค.67) อยู่ที่ 1,372.49 จุด ลดลง 8.55 จุด (-0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 41,060.71 ล้านบาท
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้(25 มี.ค.67) ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศโดยเมื่อวันศุกร์ดาวโจนส์ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังรับรู้ประเด็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ไปแล้ว ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินฝั่งเอเชียไม่น่าสนใจกดดันเงินทุนไหลออก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวแดนลบ
ขณะที่การแถลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อช่วงบ่าย ไม่ได้มีประเด็นใหม่และมองว่ามีความล่าช้ากว่าเดิม จากในตอนแรกที่คาดว่าจะเริ่มใช้นโยบายดังกล่าวช่วงไตรมาส 1-ไตรมาส 2/67 แต่ถูกเลื่อนเป็นไตรมาส 4/67
ส่วนวันนี้เป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ฯขยายเวลาซื้อขายภาคบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที มองว่าไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งแกว่งไซด์เวย์อิงทางลง
โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนรอติดตามตัวเลขสำคัญของสหรัฐ อาทิ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/66 และตัวเลขเงินเฟ้อจากการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับแรก 1,368 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,355 จุด แต่หากไม่หลุดก็มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นไปที่แนวต้าน 1,380-1,390 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,350.74 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,559.13 ล้านบาท ปิดที่ 208.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,443.25 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,255.39 ล้านบาท ปิดที่ 222.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,244.99 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท