แบงก์ และทิสโก้ ลูบคมตลาดทุน
วานนี้ กลุ่มทิสโก้ หรือ TISCO แจ้งผลประกอบการออกมาแล้ว
ธนะชัย ณ นคร
วานนี้ กลุ่มทิสโก้ หรือ TISCO แจ้งผลประกอบการออกมาแล้ว
ไตรมาส 4/2558 มีกำไรสุทธิ 1,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือว่าใกล้เคียงกับที่หลายโบรกฯ คาดการณ์เอาไว้
ทว่าบางโบรกฯ ก็คาดการณ์ว่า กำไรสุทธิจะขึ้นไปถึง 1,400 ล้านบาท
ส่วนตัวเลขกำไรสุทธิในปี 2558 ออกมากว่า 4,250 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดปี 2557
แต่นั่นก็ยังพอถือว่า ผลการดำเนินงานที่ออกมาพอจะใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์ หรืออย่างน้อย ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าบางโบรกฯ ที่คาดการณ์ไว้สูงกว่านี้มากนัก
เห็นตัวเลขแบบนี้ก็ชื่นใจบ้าง
เพราะทิสโก้ เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่แจ้งตัวเลขผลประกอบการปี 2558 ออกมา
หากออกมาไม่ดี ก็จะทำให้ Sentiment หุ้นกลุ่มธนาคารดูยิ่งแย่ลงไปอีก
ทิสโก้นั้น อย่างที่เรารับทราบกันว่า ต้องตั้งสำรองหนี้ฯ ของ SSI อีก 821 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 3/2558 และทำให้กำไรต้องร่วงลงในไตรมาสนั้น
ประเด็นที่จับตาคือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลสิ้นปีเป็นอย่างไร
ปรากฏว่า ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 3.23%
แต่หากนำเอ็นพีแอลของ SSI ออก ก็จะพบว่า หนี้เสียนั้นมีอัตราการทรงตัว หรือตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ก็มาจากสินเชื่อที่ปรับลดลงนั่นเอง
นั่นแสดงว่าทิสโก้ เริ่มจะควบคุมเอ็นพีแอลได้บ้างแล้ว ตามที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้
วานนี้หุ้น TISCO ปิดตลาด 41.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับ 5%
ดูจากการคาดการณ์ของโบรกฯ หลายแห่งถึงทิศทางของทิสโก้ในปี 2559 ส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวก
มองว่า สินเชื่อจะปรับตัวดีขึ้น จากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิ ก็จะเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2558 แม้จะไม่มาก หรือโดยเฉลี่ยระหว่าง 8-12%
ทิสโก้ มีโอกาสในการสร้างกำไรมากขึ้นจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ เพราะสินเชื่อประเภทนี้จะให้มาร์จิ้นที่สูงกว่าการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ทั่วๆ ไป
ส่วนประเด็นเรื่องการตั้งสำรองหนี้ฯ ก็คาดว่าจะลดลงจากปี 2558
เข้าใจว่าธนาคารต่อไปที่จะแจ้งผลประกอบการอาจเป็นแบงก์แลนด์ และตามด้วยแบงก์ทีเอ็มบี(TMB)
TMB นั้น เห็นตัวเลขคาดการณ์กำไรสุทธิออกมาไม่ค่อยสู้ดีนัก
ออกมาอยู่แถว 2.1-2.3 พันล้านบาท
หากเทียบกับไตรมาส 4/2557 ก็ลดลงหลายเปอร์เซ็นต์อยู่นะ หรือ 20-25% จาสกการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่สูงขึ้น
จริงแล้วตัวเลข Coverage Ratio ของแบงก์ทีเอ็มบีจัดว่าค่อนข้างสูง
ระหว่าง 140-150% และสูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หรือรองจากแบงก์กรุงเทพ หรือ BBL เท่านั้นนะ
แต่เห็นนักวิเคราะห์ ก็มองว่า TMB อาจต้องการให้สูงกว่านั้นอีก เลยอาจมีการนำกำไรในไตรมาส 4 เข้าไปตั้งเพิ่มดันเงินกองทุนเพิ่มขึ้นอีกซักหน่อย เพื่อความอุ่นใจ
แต่จากราคาหุ้นที่ปรับลงมามาก ก็ดันให้ ผลตอบแทนเงินปันผลขึ้นมาสูงกว่า 2.50-2.60%
โบรกฯ ส่วนใหญ่จึงยังแนะนำ“ซื้อ”
แต่หากมองภาพรวมหุ้นในกลุ่มธนาคาร เกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาส 4/2558 โบรกฯ ส่วนใหญ่ต่างก็มองว่าจะปรับลดลง 15-20%
หลักๆ ก็น่าจะมาจากของ KBANK
เพราะล่าสุด ต้องตั้งสำรองด้อยค้าไอทีกว่า 2.1-2.2 พันล้านบาท
บวกกับตั้งสำรองตามหนี้เอ็นพีแอลที่คาดกันว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ทำให้ กำไรในงวดนี้ น่าจะลงมาเหลือ 5–6 พันกว่าล้านบาทเท่านั้น
ส่วน KTB เอง ก็อาจมีการตั้งสำรองเพิ่มฯ เพราะต้องดึง Coverage Ratio ขึ้นมา
หลังจากไตรมาส 3/2558 ลงไปค่อนข้างต่ำจากปัญหา SSI
ก่อนหน้านี้ ผมอ่านและคุยกับนักวิเคราะห์มาครับ
เขาบอกว่า เริ่มเห็นแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติในหุ้นธนาคารบางตัวที่ราคาลงมาต่ำกว่าพื้นฐานมากเกินไปบ้างแล้ว