น้ำมันดิบปิดร่วง ตลาดวิตกศก.จีนซบเซา-อิหร่านผลิตน้ำมันเพิ่ม

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานในประเทศจีนซบเซาลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะสูงขึ้นอีกหากอิหร่านเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในเร็วๆ นี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิด (11 ม.ค.) ที่ 31.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ดิ่งลง 2 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 31.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงซบเซา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์พลังงานในประเทศจีนอ่อนแรงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลต่อรายงานที่ว่า อิหร่านจะกลับมาเดินหน้าส่งออกน้ำมัน หลังจากที่ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

บริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ประกาศปรับลดราคาน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปลงบาร์เรลละ 0.60 ดอลลาร์ และลดราคา 0.20 ดอลลาร์สำหรับลูกค้าในแถบเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับงวดส่งมอบเดือนก.พ. ผู้เชี่ยวชาญของอิหร่านมองว่า การกระทำของซาอุดิอาระเบียเป็นการแข่งขันกับอิหร่าน ซึ่งกำลังกลับเข้าขายน้ำมันในตลาดโลก หลังชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาน้ำมันมีโอกาสดิ่งลงแตะระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล และหากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงในไตรมาส 1 ก็จะส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดงบลงทุนเพื่อสะท้อนถึงคาดการณ์ราคาน้ำมันที่ระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ส่วนกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน แม้มีปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาดก็ตาม

Back to top button