NAT แย้ม Q1 โตเด่น ลุยประมูลงานรัฐ-เอกชน 2.2 พันล้าน มั่นใจดันรายได้โต 30%
NAT แย้มไตรมาส 1/67 โตเด่น เดินหน้าลุยประมูลงานรัฐ-เอกชนมูลค่า 2.2 พันล้านบาท มั่นใจดันรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30% ทำนิวไฮต่อเนื่อง พร้อมรุกขยายฐานลูกค้าโรงพยาบาล-เล็งเพิ่มสัดส่วนลูกค้าเอกชน 20% จากเดิม 15%
นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/67 จะเติบโตดีต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้งานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวม 665.81 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับในปีนี้ราว 650 ล้านบาทในครึ่งปีแรก โดยประกอบด้วยงานในกลุ่มการจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร และกลุ่มการให้บริการอื่น ๆ
นอกจากนี้บริษัทยังเข้ารับงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารของทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 1/67 ประมาณ 30 งาน และเดินหน้าเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนในปีนี้มูลค่ารวมประมาณ 2,200 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง
โดยล่าสุดบริษัทเข้ารับงานจ้างเหมาขยายโครงข่ายอุปกรณ์สื่อสัญญาณขนาดใหญ่ระดับ Backbone Network รองรับการให้บริการ ISP-POP และ บริการ IIG มูลค่ารวม 89.45 ล้านบาท ซึ่งมีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เป็นเจ้าของโครงการ ระยะเวลาสัญญา 150 วัน ระหว่างวันที่ 12 ม.ค.-11 มิ.ย.67 โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทั้งหมดภายในไตรมาส 3/67
สำหรับงานโครงการดังกล่าวอยู่ในกลุ่มงานประเภทระบบโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน โดยเป็นการขยายโครงข่ายหลัก (Backbone Network) ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จาก จ.กรุงเทพฯ ไปยังระบบการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต หรือ International Internet Gateway (IIG) ที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศจากทางพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นการขยายขนาดการ รับ-ส่ง ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตของทั้งประเทศ ที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับงานที่มีขนาดใหญ่ และให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่มีหลากหลายมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนงานภาครัฐ 85.30% และงานภาคเอกชน 15% โดยบริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้งานภาคเอกชนเป็น 20% เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเอกชนให้มาร์จิ้นสูงราว 20% ในขณะที่กลุ่มภาครัฐอยู่ที่ระดับ 13%
อีกทั้งมีแผนขยายไปในกลุ่มโรงพยาบาล โดยขณะนี้บริษัทได้มีการเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการดำเนินงานส่วนต่าง ๆ โดยจะสามารถนำเสนอบริการโซลูชันทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ก้าวทันต่อดีมานด์การใช้เทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทเริ่มดำเนินงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูงของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เพื่อตอบรับเทรนด์การใช้เทคโนโลยีขององค์กรในปัจจุบัน เช่น Cybersecurity, AI และ Software Development เป็นต้น
ทั้งนี้จากแผนงานดังกล่าวแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตเข้าเป้าไม่ต่ำกว่า 30% และทำนิวไฮต่อเนื่องจากปีก่อน และคาดเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดีจากการเข้ารับงานที่มีศักยภาพ