สังคมข่าวหุ้น

บอกแล้วว่าดัชนีหุ้นไทยยังคงวนเวียนในกรอบ 1,370-1,400 จุด คือ หากดัชนีลงมาบริเวณ 1,370 จุด +/- จะเกิดแรงซื้อกลับ และพอดัชนีขึ้นมาใกล้ 1,400 จุด จะมีแรงขายทำกำไร วนเวียนไปแบบนี้ ทำให้กลยุทธ์การเทรดช่วงนี้จะต้อง “เล่นสั้น” ตีหัวเข้าบ้าน หรือคล้ายกับทำตัวเป็นกองโจรนั่นแหละ เว้นแต่มองแล้วเห็นว่า หุ้นตัวไหนที่เจ๋งจริง ราคาลงมาเยอะ ซื้อถือยาวหวังปันผลหรือกินส่วนต่างราคาได้ ก็ค่อย ๆ เข้าไปทีละไม้

กลุ่มธนาคาร ราคาหุ้นเริ่มนิ่ง ๆ KBANK SCB BBL เพราะขึ้นมาเยอะ แต่ราคายังไม่น่าจะลงในช่วงนี้ เพราะช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ คงจะเถิดเทิงไล่ราคากันอีกรอบก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล แต่หุ้นแบงก์บางตัว ก็ถือว่าขึ้นมาเยอะเช่น SCB จึงต้องระวังการเข้าไปรับ ส่วนใครถืออยู่ แล้วต้นทุนต่ำ น่าจะเหมาะต่อการขายทำกำไร แต่อย่าถือไปเพื่อรับปันผลละ เดี่ยวจะไม่คุ้มเอานะ

หุ้นแบงก์อีกตัวที่น่าสนใจคือ กรุงไทย KTB ที่ราคาพยายามผ่านแนวต้าน 16.80-16.90 บาท แล้วยังผ่านไม่ได้ อย่างเมื่อวานนี้ขึ้นมาติดที่ 17.00 บาท แต่บอกไว้เลยว่า ราคาแบบนี้ ทรงกราฟแบบนี้ เดี๋ยวผ่านแน่นอน เพราะปัจจัยลบหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล ผู้บริหารย้ำว่าปีนี้ตั้งสำรองปกติ แนวโน้มลดลง แถมจะเพิ่มการจ่ายปันผลขึ้นอีกเป็น 35-38%  ของกำไรสุทธิ ส่วนโบรกฯ เองคาดว่าปีนี้กรุงไทย กำไรเพิ่ม นั่นหมายความว่า การปันผลออกมาเป็นจำนวนเงินจะเพิ่มจากปี 2566 และส่งผลต่อยีลด์ที่จะสูงขึ้นถึง 6% ในช่วงหุ้นขึ้น XD ถือว่า เหมาะต่อการเข้ารับ

เซ็นทรัล รีเทลฯ  CRC สัญญาณเทคนิคถือว่าสวย ราคาหุ้นย่อตัวลงมาเพื่อจะถูกดันขึ้นรอบใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้วิ่งขึ้นผ่านแนวต้าน 35.00 บาท ขึ้นมาได้ เกิดการพักและย่อตัว ส่วนแนวต้านถัดไป ชน 40 บาทแน่นอน ใครถือหุ้นอยู่ ต้องใจร่ม ๆ อย่ารีบร้อนขายออก หากราคาย่อตัว แนวรับ 35.50-35.25 บาท ถือว่าค่อนข้างแกร่ง และโอกาสที่จะหลุดยาก เว้นแต่จะมีปัจจัยลบที่อยู่นอกเหนือคาดการณ์เข้ามากระทบจริง ๆ

บีทีเอสฯ BTS ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาต่อเนื่องหลายวัน ส่วนวานนี้ย่อตัวลงไป 0.10 บาท จากวันก่อนที่ลดลง 0.05 บาท  ทำให้ราคาลงมาปิด 5.60 บาท ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากที่มีรายใหญ่เข้ามาซื้อหุ้น และดันราคาขึ้นมา ส่วนวานนี้ที่ราคาปรับลง น่าจะมาจากกรณีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเกิดเหตุขัดข้องอีกครั้ง ทำให้เป็นเซนติเมนต์เชิงลบเล็กน้อย เพราะไม่น่าจะไปกระทบกับค่าใช้จ่าย หรือการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจอะไรมากนัก อาจจะเป็นจังหวะดีต่อการเข้าซื้อก็ได้ เผลอ ๆ วันนี้ราคาอาจจะกลับมาฟื้นตัวแล้วละ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) และบมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) ที่ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ยังได้คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ F1+(tha) ส่วนปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นจากไต้หวันคือ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC; อันดับเครดิตสากล ‘A’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ‘a’) CTBC ถือหุ้นโดยตรงใน LHFG ในสัดส่วน 46.6% และมีอำนาจควบคุมการบริหารกลุ่มบริษัทลูกในประเทศไทย โดย CTBC Bank เป็นธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน