เจาะลึก! โมเดล “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” เล็งเปิด “สัมปทาน” เอกชนร่วมลงทุน
“กมธ.ศึกษาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เผย 3 แนวทางจัดตั้ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” เปิด “สัมปทาน” เอกชนร่วมลงทุนมีความเป็นไปได้มากที่สุด เริ่มต้นงบลงทุน 1 หมื่นล้าน ไม่ปิดกั้นต่างชาติร่วมลงทุนแต่ต้องจดทะเบียนในไทย คาดพื้นที่ EEC มีความพร้อมสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 เม.ย. 67) นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และโฆษกคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร คนที่หนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ถึงโมเดลการจัดตั้ง Entertainment Complex ตามแนวทางที่คณะกรรมาธิการฯ ได้มีการศึกษา โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ 1.รัฐบาลลงทุนเอง 2.รัฐลงทุนร่วมกันกับเอกชน และ 3. การให้สัมปทานลงทุนกับเอกชน ซึ่งแนวทางสุดท้าย กมธ. ส่วนใหญ่เห็นว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด โดยจะต้องลงเงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยมีระยะเวลาที่ได้รับสัมปทานครั้งแรก 20 ปี และหลังจากนั้นจะต่อครั้งละ 5 ปี
สำหรับตัวเลขลงทุน 1 หมื่นล้านบาทนั้น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. อยู่ในมาตรา 43 ซึ่งจะต้องเป็นนิติบุคคลด้วย การที่ให้สัมปทาน 20 ปี เพราะต้องการให้โอกาสเอกชนทำธุรกิจและเอกชนอยู่ได้ และตรงนี้บริษัทเอกชนสามารถรวมกลุ่มตั้งบริษัทมาได้ หรือเป็นบริษัทต่างชาติก็สามารถทำได้แต่ต้องมาจดทะเบียนที่ไทย และมายื่นการดำเนินกิจการ
ส่วนการกำกับดูแลธุรกิจนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารขึ้นมา โดยที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและมีข้าราชการระดับปลัดกระทรวงมาช่วยกำหนดมาตรการ กำกับทิศทางต่างๆ นอกจากนี้จะต้องมีหน่วยงานกำกับดูแลการพนันที่เป็นองค์กำกับดูแลการพนันของรัฐมาร่วมด้วย ซึ่งจะยึดโมเดลของสิงคโปร์มาเป็นต้นแบบในการดำเนินการ ส่วนเรื่องการเก็บภาษีรายได้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ เพราะตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน
ส่วนสถานที่ตั้งของกาสิโน มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่จังหวัดระยอง โดยที่กรรมาธิการจะมีการพูดถึงตรงนี้มากสุด ขณะเดียวกันอีอีซีเองก็มีการแสดงความพร้อมมากที่สุด ซึ่งตอนนี้มีความพร้อมทุกอย่างแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการตั้งที่นี่ แต่ยังมีคำถามตามมาว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของทหาร ซึ่งอาจจะมีคำถามของสังคมตามมา อย่างไรก็ดีตอนนี้ยังไม่มีการฟันธงว่าจะเลือกสถานที่ใด และพรรคก้าวไกลก็ยังมองว่ารายงานฉบับนี้ยังไม่สมบูรณ์
สำหรับหลักเกณฑ์คนที่จะใช้บริการได้นั้นจะต้องอายุ 20 ปีขึ้นไป ไม่เป็นบุคคลที่สำนักงานมีควบคุมการพนันห้าม และไม่ถูกศาลสั่งห้ามเนื่องจากครอบครัวร้องขอหรือแจ้งศาล ส่วนเงื่อนไขอื่นเช่นเงินเดือนก็ควรจะมากกว่า 50,000 บาท
สำหรับขั้นตอนกฎหมายจากนี้ก็มีเอารายงานให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา หลังจากนั้นจะส่งกลับมาที่รัฐสภา และจะมีการโหวตเห็นชอบและมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญกฎหมายเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ และโหวตรับร่างวาระสองและสาม ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่เสร็จในรัฐบาลชุดนี้