สังคมข่าวหุ้น
ต่างชาติดันหุ้นไทยพุ่ง ซื้อสุทธิ 6,037.79 ล้านบาท ส่วนรายย่อย-กองทุนเทขายทำกำไร หุ้นไทยวานนี้ (9 เม.ย.) ร้อนแรงไม่แพ้อากาศเลยทีเดียวนะเจ้าคะ
ต่างชาติดันหุ้นไทยพุ่ง ซื้อสุทธิ 6,037.79 ล้านบาท ส่วนรายย่อย-กองทุนเทขายทำกำไร
หุ้นไทยวานนี้ (9 เม.ย.) ร้อนแรงไม่แพ้อากาศเลยทีเดียวนะเจ้าคะ โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,401.11 จุด บวก 25.53 จุด หรือ 1.86% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน มีมูลค่าการซื้อขาย 48,387.73 ล้านบาท ตลาดหุ้นมีความคึกคักต่อเนื่อง มีแรงซื้อในหุ้นบิ๊กแคปอย่าง DELTA และ AOT รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ นำโดยหุ้นแบงก์ใหญ่อย่างหุ้น BBL, SCB และ KBANK
มาลุ้นไปพร้อม ๆ กับเจ๊นะคะ ว่าวันนี้ กนง.จะลดหรือคงดอกเบี้ย ซึ่งเท่าที่เจ๊ฟัง ๆ มา บางที่ก็บอกว่าลดรอบนี้ บางที่ก็บอกว่าลดรอบหน้า แต่ บล.ทรีนีตี้ แนะนำการเตรียมพร้อมกลยุทธ์ สำหรับ กนง.วันนี้ ระบุว่า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการ Hedging พอร์ต เผื่อกรณีที่ กนง.อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยแบบ Surprise cut ในการประชุมวันที่ 10 เม.ย.นี้ หรือนักลงทุนที่อาจต้องการเก็งกำไรระยะสั้นต่อความเป็นไปได้การลดดอกเบี้ยดังกล่าว แนะนำให้เข้าสะสมหุ้นกลุ่มที่อิงกับบาทอ่อน ซึ่งในอดีตมักปรับตัว Outperform ตลาดในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มส่งออก (ETRON, FOOD) และกลุ่มท่องเที่ยว (TOURISM, TRANS) มองตัวหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ HANA, KCE, AAI, ITC, TU, ERW, AOT แต่หากจะต้องเลือกกลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ภายใน 1 กลุ่ม ที่คิดว่าน่าจะปรับตัว Outperform ตลาดได้หากมี Surprise cut มองไปยังกลุ่มค้าปลีกเป็นสำคัญ เลือก CPALL, CPAXT และ BJC หากสุดท้าย การลดดอกเบี้ยไม่เกิดขึ้นในการประชุมวันนี้ มองว่าบรรยากาศในตลาดทุนทุกอย่างจะยังคงเหมือนเดิม โดยอาจจะมีการ Reverse กลับบ้างของฟันด์โฟลว์ที่ไหลออกไปบางส่วนก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้เห็นเงินบาทกลับมาแข็งค่าเล็กน้อยในระยะสั้นได้ ส่วนกลุ่มธนาคารอาจมีการรีบาวด์กลับในช่วงสั้น จากความกังวล NIM ที่น้อยลง
ในส่วนของหุ้นน้องใหม่ NEO ที่เข้าซื้อขายวานนี้เป็นวันแรก ก็ฮอตไม่เบานะเจ้าคะ ราคาปิดตลาดที่ 46.25 บาท บวก 7.25 บาท หรือ 18.59% สูงกว่าราคา IPO ที่กำหนดไว้ที่ 39 บาท
ช่วงนี้มาตรการต่าง ๆ จาก ครม. ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ล่าสุด บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า ครม. เห็นชอบให้กระทรวงการคลังศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) โดยให้นำกลับมาเสนอต่อ ครม.ภายใน 30 วัน ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยว นำโดย กลุ่มสายการบิน และกลุ่มการบริโภค ซึ่งจะได้ประโยชน์ระยะยาว จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มโรงแรมที่ได้เซนติเมนต์เชิงบวกเช่นกัน นอกจากนี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะได้ประโยชน์จากราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) แจ้ง “ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์” CFO ลาออก มีผลตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2567 พร้อมตั้ง “กิตติพล ฐานะสิทธิ์” รักษาการแทน มีผลตั้งแต่ 5 เม.ย. 2567
บอร์ด PTTGC แต่งตั้ง “ณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์” ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ แทน “คงกระพัน อินทรแจ้ง” ที่ขึ้นรับตำแหน่งซีอีโอ PTT มีผลตั้งแต่ 13 พ.ค. 2567