สายการบินวุ่น! “อิหร่าน” เปิดฉากโจมตี “อิสราเอล” สถานทูตฯ เตือนคนไทยเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิง สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า วันนี้ (14 เม.ย.67) อิหร่านได้ทำการยิงโดรนและขีปนาวุธหลายลูกในการโจมตีโดยตรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นบนดินแดนของอิสราเอลหลังจากอิหร่านได้ประกาศว่าจะตอบโต้ต่อการโจมตีของอิสราเอลที่เกิดขึ้นในดามัสกัสในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

ด้านสำนักข่าว CNBC รายงานข่าวนี้เช่นกัน ระบุว่า อิหร่านโจมตีอิสราเอล ยกระดับความตึงเครียดอันยาวนานระหว่างสองชาติ หลังจากก่อนหน้านี้อิหร่านระบุว่าอิสราเอลเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีสถานกงสุลในกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 1 เม.ย.

เอเดรียนน์ วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ว่า อิหร่านได้เริ่มการโจมตีทางอากาศต่ออิสราเอลเมื่อวันเสาร์ สหรัฐอเมริกาจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวอิสราเอลและสนับสนุนการป้องกันประเทศของพวกเขาจากภัยคุกคามจากอิหร่านเหล่านี้

ขณะที่ แดเนียล ฮาการิ โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าอิสราเอลจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาคเพื่อสกัดกั้นการยิงขีปนาวุธ

“เรากำลังเฝ้าติดตามภัยคุกคามในน่านฟ้า จะใช้เวลาหลายชั่วโมงก่อนที่ขีปนาวุธเหล่านี้จะถึงดินแดนของรัฐอิสราเอล” แดเนียล ฮาการิ กล่าวเสริม

ขณะที่ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีสงครามในกรุงเทลอาวีฟ หลังจากมีการประกาศยิงขีปนาวุธและโดรน เช่นเดียวกันผู้นำระดับนานาชาติรวมถึงประธานสภายุโรป ชาร์ลส์ มิเชล, นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ริชิ ซูนัค และกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศส ได้ประณามการโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอลต่อสาธารณชน

CNBC รายงานด้วยว่า ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่เริ่มสงครามในฉนวนกาซาเมื่อเดือนต.ค.โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากอิหร่านกล่าวหาอิสราเอลว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีสถานกงสุลในกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 1 เม.ย. และก่อนหน้านี้ ผู้นำอิหร่าน รวมถึง อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ได้ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อิสราเอลสำหรับการโจมตีดามัสกัส และในทางกลับกัน อิสราเอลได้ขู่ว่าจะโจมตีตอบโต้เช่นกัน อิสราเอลไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีในดามัสกัส

“หากอิหร่านโจมตีจากดินแดนของตน อิสราเอลจะตอบโต้และโจมตีในอิหร่าน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลเขียนในโพสต์

ทั้งนี้ จากคำเตือนต่างๆ ของอิหร่าน ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่าจะมีการโจมตีจากอิหร่าน และได้สื่อสารกับอิสราเอลเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเตรียมพร้อมที่จะปกป้องตนเอง โดยในแถลงการณ์หลังการโจมตี สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติเตือนสหรัฐฯ ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยว

“นี่คือความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับระบอบการอันธพาลของอิสราเอล ซึ่งสหรัฐฯ จะต้องอยู่ห่างๆ” คณะผู้แทนทูตอิหร่านโพสต์บนโซเเชียลมีเดีย

นอกจากนี้ สำนักข่าว CNBC อ้างอิงสื่อจอร์แดน Al Mamlaka รายงานว่า สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ที่เพิ่งกลับมาให้บริการเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟเมื่อต้นเดือน ได้ยกเลิกเที่ยวบินจากเมืองนิวอาร์กไปกรุงเทลอาวีฟในวันเสาร์ หลังอิสราเอลตัดสินใจปิดน่านฟ้า ขณะที่จอร์แดนและอิรักก็ปิดน่านฟ้าเช่นเดียวกัน

“เรากำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมตัดสินใจเกี่ยวกับเที่ยวบินถัดไป โดยให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของลูกค้าและบุคลากรเป็นหลัก” ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ระบุในแถลงการณ์

อีกทั้งสายการบินยูไนเต็ดยังได้ยกเลิกเที่ยวบินจากท่าอากาศยานนานาชาติวอชิงตันดัลเลสสู่กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดนเมื่อคืนวันเสาร์ด้วย เนื่องจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง และยังไม่ชัดเจนว่าเที่ยวบินที่ระงับจะกลับมาให้บริการอีกครั้งเมื่อใด

ด้านเว็บไซต์ Flightradar24 ที่ติดตามเที่ยวบินต่าง ๆ เผยว่า เที่ยวบินจำนวนมากที่เดินทางไปยังกรุงเทลอาวีฟและกรุงอัมมานได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางในวันเสาร์ ขณะที่หลายสายการบินมีการยกเลิกบริการเที่ยวบินในวันนี้

สายกาารบิน El Al ของอิสราเอลได้ยกเลิกเที่ยวบินในวันนี้มากกว่า 20 เที่ยว และเที่ยวบินที่เดินทางจากไทยไปอิสราเอล 2 เที่ยวในวันนี้ได้ทำการเปลี่ยนเส้นทาง และแจ้งผู้โดยสารว่าไม่ต้องเดินทางไปสนามบินจนกว่าจะได้รับแจ้งข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม

วันนี้ยังมีอีกหลายสายการบินที่ยกเลิกเดินทางไปอิสราเอลและจอร์แดน อาทิ สายการบินเอมิเรตส์ สายการบินแอร์ฟรานส์ สายการบินบริติชแอร์เวย์ และสายการบินลุฟท์ฮันซา

ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งเตือนคนไทยในอิสราเอล ว่าขอแจ้งแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามประกาศของรัฐบาลอิสราเอล และขอให้ทุกท่านระมัดระวังตนเอง และปฏิบัติตามคำสั่งทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด หากได้ยินเสียงไซเรน ขอให้ทุกท่านรีบเข้าห้องหลบภัยในทันที

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ดังนี้

สถานเอกอัครราชทูต ฯ ขอแจ้งแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 67 เวลา 23:00 น.จนถึงวันที่ 15 เม.ย. 67 เวลา 23:00 น. ดังนี้

1. ห้ามมีการชุมนุมมากกว่า 1,000 คน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และปิดสถาบันการศึกษา
2. ในพื้นที่สู้รบ ห้ามชุมนุมมากกว่า 30 คน
3. สถานที่ทำงานเปิดได้เฉพาะที่มีห้องหลบภัย

รัฐบาลได้ประกาศปิดน่านฟ้า และงดเที่ยวบินทั้งหมด ตั้งแต่ 00:30 น. ของวันที่ 14 เม.ย.67 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านติดตามประกาศของแต่ละท้องถิ่น หากต้องการติดต่อสถานเอกอัดรราชทูตฯ โปรดติดต่อ +972 546 368150 +972 503673195

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัดรราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ