“ดาวโจนส์” ปิดลบ 248 จุด หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปี ทะลุ 4.6% นิวไฮรอบ 5 เดือน
“ดาวโจนส์” ปิดลบ 248 จุด อ่อนตัว 6 วันติด หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 4.6% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.66 ซึ่งนิวไฮในรอบ 5 เดือน พ่วงความตรึงเครียดสงครมตะวันออกกกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (15 เม.ย.67) โดยตลาดถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอล
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,735.11 จุด ลดลง 248.13 จุด หรือ -0.65%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,061.82 จุด ลดลง 61.59 จุด หรือ -1.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,885.02 จุด ลดลง 290.08 จุด หรือ -1.79%
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นสถิติการปิดลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 66 โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 4.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.66 หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%
ด้านนักลงทุนกังวลว่ายอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคนั้น อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งบรรยากาศการซื้อขายยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านได้ใช้ขีปนาวุธและโดรนโจมตีอิสราเอลในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 เม.ย.) ซึ่งแม้ว่ากองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) สามารถยิงสกัดขีปนาวุธและโดรนเหล่านั้นได้เกือบทั้งหมด แต่คาดการณ์ว่าความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงและสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางส่งผลให้ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.23 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566
สำหรับหุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงหนักสุดถึง 1.99% และดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 1.72%
ส่วนหุ้นรายตัวนั้น หุ้นแอปเปิ้ลร่วงลง 2.19% หลังจากข้อมูลจาก IDC ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระบุว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนของบริษัทแอปเปิ้ลลดลง 10% ในไตรมาส 1/2567
หุ้นเทสลา ปรับตัวลง 5.6% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะปลดพนักงานกว่า 10% ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนหลังจากยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ชะลอตัวลง
หุ้นเซลส์ฟอร์ซ ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ของสหรัฐ ร่วงลง 7.25% หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เซลส์ฟอร์ซมีความคืบหน้าในการเจรจาซื้อกิจการบริษัทอินฟอร์เมติกา (Informatica)
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1/2567 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท