กู้ชีพตลาดหุ้นไทยด่วน!
ก่อนสงกรานต์ตลาดหุ้นไทย ทำท่ามีความหวัง ดัชนีหลักทรัพย์ขึ้นมาแตะระดับ 1,400 จุดได้แค่ 2 วัน แต่เปิดงานวันแรกหลังสงกรานต์ ดัชนีก็ร่วงผล็อย
ก่อนสงกรานต์ ตลาดหุ้นไทยทำท่ามีความหวัง ดัชนีหลักทรัพย์ขึ้นมาแตะระดับ 1,400 จุดได้แค่ 2 วัน แต่เปิดงานวันแรกหลังสงกรานต์ ดัชนีก็ร่วงผล็อย เสียทรงอย่างแรงเกือบ 30 จุด ในขณะที่ตลาดอื่น มีตกใจบ้างจากเหตุอิหร่านถล่มยิว
แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร หลายตลาดในเอเชียยังบวกสวนเสียด้วยซ้ำเช่น ตลาดหุ้นฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย จีน และฟิลิปปินส์ ส่วนตลาดหลักในยุโรปบวกกันทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็น DAX เยอรมนี, CAC ฝรั่งเศส และฟุตซี่ ลอนดอน ไม่เห็นใครจะเสียทรงเท่า SET บ้านเรา
ตลาดหุ้นไทยชักน่ากลัวกว่าที่คิด! มันไม่ใช่แค่เกิดจากเหตุปัจจัยภายในปกติธรรมดาแล้ว แต่นี่ดูจะมีปัญหาสะสมเชิงโครงสร้าง ที่นานวันจะกลายเป็นตลาดที่หมดเสน่ห์ ร้างผู้คนเอา
ทั้งวอลุ่มเทรดและดัชนีต่างหดหาย นับแต่ต้นปีมา-11 เม.ย.ปีนี้ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยในแต่ละวันเหลือเพียง 42,492.51 ล้านบาท ลดน้อยถอยลงจากปี 2566 ซึ่งเฉลี่ย/วัน ที่ 51,082 ล้านบาท ปี 65-64 เฉลี่ย 71,226 และ 88,443 ล้านบาท/วันตามลำดับ
ตลาดหุ้นที่มีวอลุ่มเทรดขนาดนี้จะเอาอะไรไปดันดัชนีหลักทรัพย์ได้ ดังจะเห็นได้จากการถดถอยของดัชนีตลาดจากสิ้นสุดปี 64 ที่ 1,657 จุด, ปี 65 ที่ 1,668 จุด, ปี 66 ที่ 1,415 จุด และปี 67 กว่า 4 เดือนมานี้ กลับสู่ใต้ระดับ 1,400 จุดอีกแล้ว และแนวโน้มข้างหน้า ก็ยังมีปัจจัยที่อ่อนแออยู่มาก
ตลาดหุ้นไทยไม่มีกลไกใด ๆ ที่จะปกป้องตัวเองได้เลย
ไม่ใช่ว่า ไม่มีหุ้นดีในตลาด เพราะอย่างน้อยหุ้นใน SET50 ส่วนใหญ่ ก็ยังมีผลกำไร ไม่ถึงกับขาดทุนบักโกรก แต่อาจจะกำไรน้อยลง หรือเติบโตได้ไม่มาก ราคาหุ้นก็ไม่ควรจะปรับตัวรุนแรงขนาดนี้
ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แสดงความแข็งแกร่งพอสมควรที่สามารถผ่านมหาวิกฤตโควิดมาได้ การตั้งสำรองสินทรัพย์เสี่ยงในระบบ (Coverage Ratio) ก็อยู่ในระดับสูงกว่า 179% แต่หุ้นธนาคารพาณิชย์ทุกตัว แม้มีปันผลสวยงาม ราคากลับสวนทางต่ำกว่าบุ๊ก หรือมูลค่าทางบัญชีหมด
หุ้นแลกการ์ดที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง มีจำนวนมากมายพอสมควร แต่ทำไมราคายังตกต่ำ ไม่กลับมาใกล้เคียงระดับเก่าได้เสียที
ผมว่า ตลาดหุ้นยุคที่ถูกหุ่นยนต์แย่งส่วนแบ่งตลาดไป 40-50% มันถูกกร่อนเซาะบ่อนทำลายมากเกินไปแล้ว
เรื่องการเทรดหุ้นด้วยความเร็วสูงหรือการใช้ “โปรแกรม เทรดดิ้ง” และการมั่วนิ่มผสมโรง “เนคด์ชอร์ต” หรือการขายชอร์ตมือเปล่า ผมว่าผู้บริหารตลาดหุ้น (ตลท.) ไม่ตระหนักต่อปัญหาความร้ายแรงพอ การแก้ไขก็ล่าช้าเอามาก ๆ
ล่าช้าจนปล่อยให้หุ่นยนต์ครอบงำตลาด และปล่อยให้นักลงทุนสิ้นศรัทธาจนถอยออกห่างจากตลาดไปไม่น้อย
จุดเปราะบางที่สุดของตลาดหุ้นไทยก็คือ ไม่มีกลไกที่จะดูแลปกป้องตัวเองเอาเสียเลย ผมขอเสนอให้ตลท.มีกองทุนดูแลเสถียรภาพตลาดของตัวเอง โดยการเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่ราคายังแลกการ์ดครับ
เพื่อปกป้องราคาหุ้นในตลาดของตัวเอง และยังเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของตลท.จากเงินปันผลของหลักทรัพย์ไปในตัวด้วย
ดูแบบอย่างการฟื้นฟูตลาดหุ้นต่างประเทศเช่น ตลาดหุ้นจีน รัฐบาลได้จัดตั้งกองทุน 2 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 10 ล้านล้านบาท เข้ามาพยุงหุ้นในตลาด โดยซื้อหุ้นบลูชิพที่ปัจจัยพื้นฐานดีเข้ากองทุน ตลาดหุ้นจีนเดี๋ยวนี้ ก็ฟื้นตัวแล้ว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเงินจากผลกำไรปีละ 2 พันล้านบาท แต่เอาไปไร้สาระกับกองทุน CMDF ถึง 90% ควรโยกเงินส่วนนี้มารักษาชีวิตตัวเอง และหยุดยั้งหายนะของนักลงทุนไทยขณะนี้โดยด่วน!