“ฟิวเจอร์พาร์ค-สเปลล์” ร่วมลดใช้พลังงาน ติดโซลาร์รูฟ 56,000 ตร.ม. ประหยัดไฟ 27%
ศูนย์การค้า “ฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์” เดินหน้าองค์กรสู่ความยั่งยืนทุกมิติ ประกาศความสำเร็จติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรวม 56,000 ตร.ม. จำนวน 14,658 แผง กำลังผลิต 5.41 เมกะวัตต์ ช่วยให้ประหยัดพลังงาน 27% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดร.สุชาย วัชอภัยกุล กรรมการผู้จัดการร่วม กลุ่มงานบริหารทั่วไปของ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าฯ ประกาศความสำเร็จในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ “โซลาร์ รูฟท็อป” รวมพื้นที่กว่า 56,000 ตร.ม. รวมจำนวน 14,658 แผง กำลังการผลิตกว่า 5.41 เมกะวัตต์
โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 7.40 ล้านหน่วย (KWH) ต่อปี ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากถึง 27% ของการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลางของศูนย์การค้าฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 ที่ผ่านมา พร้อมตอบโจทย์นโยบายด้านความยั่งยืนในทุกมิติขององค์กร ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการสร้างประโยชน์แก่สังคม ด้วยการพัฒนาองค์กรควบคู่การดำเนินธุรกิจที่สร้างคุณค่าและเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์พลังงานและดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นเปิดให้บริการ โดยได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา หรือ “โซลาร์ รูฟท็อป” คิดเป็นพื้นที่กว่า 43,000 ตร.ม. ตั้งแต่ปี 61 และล่าสุดได้ขยายการติดตั้ง SOLAR ROOFTOP ที่อาคารบิ๊กซี บนพื้นที่กว่า 13,000 ตร.ม. จำนวนแผง 3,636 แผง กำลังการผลิต 1.999 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุน 52 ล้านบาท
ดร.สุชาย กล่าวอีกว่า นอกจากเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคายังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไปสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 7,779 ตันคาร์บอน พร้อมกันนี้ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มในพื้นที่อาคารจอดรถ 9 ชั้น อีกจำนวน 528 แผง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คิดเป็นกำลังการผลิต 322.4 กิโลวัตต์ โดยใช้งบลงทุนอีก 11 ล้านบาท กำหนดเริ่มโครงการปี 67 และคาดว่าจะสามารถใช้กระแสไฟได้ในปี 69
นอกจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานสะอาดแล้ว ทางศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ยังยึดมั่นในการลดการใช้พลังงาน โดยหนึ่งในผลงานแห่งความภาคภูมิใจคือการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศ Chiller Optimization การควบคุมและกำหนดการทำงานของระบบการทำความเย็นด้วยน้ำเย็นหมุนเวียนที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบ AI เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงาน โดยสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในปี 2566 ได้ถึง 6.49 เมกะวัตต์ต่อปี และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 3,650 ตันต่อปี
“ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้พลังงานของประเทศ ตามปฏิธานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยส่วนรวมเป็นสำคัญ” ดร.สุชาย กล่าว