กูรูแนะซื้อ 8 หุ้นเจ๋ง! ผลตอบแทนสูงปัจจัยตปท.หนุน SET บ่ายบวกต่อ

SET เช้านี้รีบาวน์ตามตลาดต่างประเทศ หลังจากแบงก์ชาติของจีนได้ซื้อเงินหยวนในตลาด Offshore ทำให้เงินหยวนดีขึ้น ขณะที่ตลาดมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์ขึ้นนำตลาดฯ บ่ายนี้ดัชนีฯคงยืนในแดนบวกได้ หลังดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกกว่า 120 จุด พร้อมให้แนวต้าน 1,270-1,280 แนวรับ 1,260 และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,255 จุดที่ไม่ควรหลุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 13 ม.ค.) รีบาวน์ตามตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ โดยได้รับอานิสงส์บวกจากตลาดสหรัฐ และตลาดในยุโรปที่มีการเด้งกลับขึ้นมา หลังจากที่ตลาดได้สะท้อนความกังวลต่างๆ ไปมากแล้ว

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย คาดดัชนีฯคงยืนในแดนบวกได้ เนื่องจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์ได้บวกไปกว่า 120 จุด พร้อมให้แนวต้าน 1,270-1,280 จุด ส่วนแนวรับ 1,260 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,255 จุดที่ไม่ควรหลุด ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” KBANK-KTB-TMB-PS-QH และ SIRI

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวน์เหมือนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ใแดนบวกกันหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ โดยได้รับอานิสงส์บวกจากตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปที่มีการเด้งกลับขึ้นมา หลังจากที่ตลาดได้สะท้อนความกังวลต่างๆไปมากแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อแบงก์ชาติของจีนได้เข้ามาซื้อเงินหยวนในตลาด Offshore ทำให้ค่าเงินหยวนดูดีขึ้น ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และเข้ามาเล่นเก็งกำไรตามาคาดการณ์ผลประกอบการบรัษัทจดทะเบียน(บจ.) ในปี 58 และผลประกอบการที่คาดว่าจะพลิกฟื้นในปี 59

ขณะที่ แรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์ขึ้นนำตลาดฯ หลังจากที่ P/BV ได้ปรับตัวลงไปมาก จากเมื่อก.พ.58 อยู่ที่ 1.9 เท่า มาปัจจุบันอยู่ที่ 1.1 เท่า ทำให้มี Valuation น่าจูงใจขึ้น และกลุ่มแบงก์ก็ยังทำกำไรได้อยู่ แม้ว่าปี 58 กำไรจะหดตัวไปจากที่มีการตั้งสำรองฯมาก แต่ในปี 59 คาดว่ากำไรจะเติบโตได้เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม การกลับมาซื้อมองว่าเป็นเพียงแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น เพราะนักลงทุนคงจะรอดูภาวะตลาดฯต่อไป เนื่องจากตลาดฯยังมีแรงกดดดันจากเศรษฐกิจโลก, เศรษฐกิจของจีน และราคาน้ำมัน ทำให้นักลงทุนอาจเข้าลงทุนเป็นแบบล็อตๆ

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีฯคงยืนในแดนบวกได้ เนื่องจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์ได้บวกไปกว่า 120 จุด พร้อมให้แนวต้าน 1,270-1,280 จุด ส่วนแนวรับ 1,260 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,255 จุดที่ไม่ควรหลุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 13 ม.ค.) ว่า ตลาดหุ้นโลกเริ่มฟื้นตัวหลังค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อ SET ตั้งแต่เปิดตลาด นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่มี Valuation ต่ำที่ PBV 1 เท่า โดยเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภค และเป็นกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็น “บวก” สูงกว่า SET ในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” KBANK (ต้าน 166.50) KTB (ต้าน 17.4/18.0) และ TMB (2.56/2.70) ต่อเนื่อง นอกจากลุ่มธนาคาร ยังคาดว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯ อย่าง PS-QH และ SIRI จะเป็นหุ้นอีกกลุ่มที่ค่อยๆ ฟื้นตัวตามมา จากสถิติในอดีตที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.เช่นเดียวกัน

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ ( 13 ม.ค.) ว่า ดัชนี SET ช่วงเช้าปิดบวกเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดภูมิภาค ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยได้รับอานิสงส์หลัก จากตัวเลขการส่งออกของจีนเช้านี้ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก (-1.4% Vs. -8.0%) โดยดัชนี SET มีแรงซื้อกลับเข้ามามาก ในหุ้น Big Cap โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร หลังจากที่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวลงมาก (เฉพาะกลุ่มแบงค์ ทำให้ SET +7.49 จุด)

แนวโน้มภาคบ่าย คาดปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อยเพื่อทดสอบ 1,280 จุด แนวรับ 1,270 จุด โดยดัชนีช่วงเช้า ปรับตัวผ่านแนวต้าน 1,270 ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น แสดงถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง ภาคบ่ายมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อย ทดสอบ แนวต้านหลัก 1,280 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,152.46 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,856.72 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,523.84 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,365.94 ล้านบาท ปิดที่ 219.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,210.70 ล้านบาท ปิดที่ 17.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button