แนวโน้ม SET แกว่งไซด์เวย์ จับตาตัวเลข “GDP-PCE” สหรัฐ
แนวโน้ม SET แกว่งตัวกรอบแคบ นักลงทุนรอติดตามตัวเลข GDP และ PCE ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงดอลลาร์แข็งค่าอาจกดดันเงินบาทอ่อนค่าลง ให้กรอบแนวรับ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,365 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งตัวกรอบแคบ โดยนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกของสหรัฐวันนี้ (25 เม.ย.67) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ (26 เม.ย.67) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ค่อนข้างดี ส่งผลให้นักลงทุนปรับคาดการณ์แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดลงจาก 3 ครั้งเหลือเพียงอย่างมาก 1 ครั้ง
ทั้งนี้หากตัวเลข GDP และ PCE สหรัฐสูงกว่าคาด อาจทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้นอีก ขณะที่เมื่อวานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง. พร้อมที่จะทบทวนนโยบายอัตราดอกเบี้ย หากมีข้อมูลใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อมุมมองเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้โอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพียง 1 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า กดดันเงินบาทอ่อนค่าลงอีก
นอกจากนี้วันนี้ติดตามตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงความคืบหน้ามาตรการยกระดับการกำกับดูแล ซึ่งหากมาตรการมีความเข้มงวดมากขึ้น อาจสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน และทำให้หุ้นที่ถูก Short Sell อาจต้อง Cover Short
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสถานการณ์ที่โอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยน้อย แนะนำลงทุนกลุ่มธนาคาร และเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หลังเมื่อคืนนี้ดัชนี NASDAQ ยังปรับตัวขึ้นต่อ โดยให้กรอบแนวรับ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,365 จุด