ตลาดปล้นทรัพย์?

เรา ๆ ท่าน ๆ รู้สึกกันบ้างไหมครับว่า ระบบนิเวศ (Eco System) ตลาดหุ้นไทยไม่เหมือนก่อน มีลักษณะอ่อนแอมาก ๆ สามวันดีสี่วันไข้ ข่าวดีไม่รับ ชอบรับแต่ข่าวร้าย

มันจะเป็นอาการแค่ชั่วครั้งชั่วคราว หรือเป็นโรคเรื้อรังประจำตัว ผมว่าตลท.และก.ล.ต.ต้องเร่งวินิจฉัยหาสาเหตุกันแล้วล่ะครับ  จะมามัวนิ่งนอนใจเหมือนที่ผ่าน ๆ มา หรือตอบปัญหาแบบปัดสวะพ้น ๆ ไป เช่นเรื่อง “เนคด์ ชอร์ต” ว่า “ไม่มี” แทนคำว่า “ไม่พบ” คงไม่ได้

“ไม่มี” ก็เท่ากับไปรับรองความชอบธรรมในการขายชอร์ตโดยไม่มีหุ้นในมือ อันเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์แล้ว แต่ “ไม่พบ” หมายถึงหากวันนี้ไม่เจอ วันหน้าก็อาจเจอได้ ซึ่งภายหลังก็ตรวจเจอจริง ๆ ไม่รู้ภาษาไทยไม่แข็งแรง หรือต้องการพูดปัดสวะให้พ้น ๆ ไป ก็ไม่รู้

ขอเข้าเป้าตรงจุดถึงอีโค ซิสเท็มที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของตลาดหุ้นไทยเลยนะครับว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทย ถูกครอบงำโดยนักลงทุนระยะสั้นกว่า 50% สังเกตดูได้จากโครงสร้างหลักการซื้อขายประจำวันที่ซื้อขายผ่านโปรแกรม 40-45% และซื้อขายผ่านช่องทางปกติ 60-55% โดยเฉลี่ย

เจ้านักลงทุนผ่านหุ่นยนต์ “โรบอท เทรดดิ้ง” 40-45% เหล่านี้แหละครับ คือ นักลงทุนเล่นสั้นขนานแท้ ชิงขายและชิงซื้อก่อนใคร ส่งคำสั่งรัว ๆ ซื้อขายกันแค่ช่อง-สองช่อง ก็ออกตัวทำกำไรไปแล้ว

เมื่อผสมรวมกับนักลงทุนเล่นสั้นในช่องทางปกติประเภท “เดย์ เทรด” ยังไงเสียก็เป็นนักลงทุนเล่นสั้นกว่า 50% หรืออาจจะเป็น 60-70% เสียก็ไม่รู้

นักลงทุนที่เล่นสั้นและส่งออเดอร์คราวละมาก ๆ ผ่าน “โรบอท เทรด” มันก็คือการคอร์เนอร์ตลาดนั่นเอง นักลงทุนที่เข้าตลาดผ่านช่องทางซื้อขายปกติ เสมือนเดินเข้าไปหาพญามัจจุราช ก็ไม่ปาน

ตลาดหุ้นไม่ใช่แหล่งลงทุนเพื่อการบริหารเงินออมให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์อีกต่อไปแล้ว

กลายเป็นว่า ใครเดินเข้าตลาดหุ้นไทย เป็นถูกฆ่าตายหมด นักลงทุนก็นับวันแต่จะหดหายลงไปทุกวัน เพราะการปล่อยปละเลยให้มีกฎเกณฑ์ไม่เสมอภาค ที่หุ่นยนต์เอารัดเอาเปรียบผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนระยะยาว

หากไม่มีการแก้ไขใด ๆ เลย ผมว่าภายในปี-สองปีนี้ วอลุ่มเทรดในตลาดคงหดตัวเหลือแค่หมื่น-สองหมื่นล้าน และอาจจะหลุดหลักหมื่นมาหลักพันล้านได้ไม่ยาก ส่วนดัชนีตลาดก็จะสาละวันเตี้ยลง ๆ ไปเรื่อย ๆ เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ กลายเป็นตลาดปล้นทรัพย์ไปเสียแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ในตลาดหุ้นไทยที่ปล่อยให้หุ่นยนต์ครอบงำตลาดและการซื้อขายอันไม่เป็นธรรม ผมว่ามันเลวร้ายและสร้างความเสียหายมากกว่าเรื่องอื้อฉาวของสตาร์ค หรือหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระในตลาดเสียอีก

ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังทำประชาพิจารณ์เรื่อง “โรบอท เทรด” และ เรื่องการขายชอร์ตมือเปล่า (Naked Short) ซึ่งก็อาจจะผสมโรงกับโรบอท เทรดไปด้วย ผมก็ว่าเป็นเรื่องดี ก่อนตลาดจะวอดวายหนักไปกว่านี้

ขอให้เป็นเกณฑ์ที่ควบคุมกันได้จริง ๆ เถอะ แม้ตลาดเลิกโรบอท เทรด และเนคด์ ชอร์ตไป ตลาดก็คงไม่เสียหายอะไรมากนักหรอก ไม่มี 2 สิ่งนี้ ตลาดหุ้นไทยก็เคยเทรดกระหน่ำวันละ 2 แสนล้านบาทมาแล้ว

แต่หากยังคงไว้ซึ่งเกณฑ์ควบคุม 2 สิ่งที่หลวมโพรก นั่นล่ะฉ.ห.ชัด ๆ ตลาดหุ้นไทยวอดวายแน่ เลิกเทรดหุ่นยนต์และขายชอร์ตมือเปล่าไปเสีย ก็ยังจะดีเสียกว่า

ชาญชัย สงวนวงศ์