หุ้นยังไปต่อ..?ลูบคมตลาดทุน
วานนี้หลายคนตั้งคำถามเหมือนผมกันไหม
ธนะชัย ณ นคร
วานนี้หลายคนตั้งคำถามเหมือนผมกันไหม
นั่นคือ วันนี้(14 ม.ค.) ดัชนีหุ้นไทยจะยังคงวิ่งขึ้น หรือบวกต่อจาก 2 วันก่อนหน้านี้หรือไม่
วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีบวกขึ้นมาเป็นวันแรกนับจากช่วงปีใหม่ 2559 โดยปิดตลาดบวก 20.80 จุด
ส่วนวานนี้ ดัชนียังบวกแรงต่อเนื่อง 23.31 จุด ทำให้ดัชนีหุ้นไทยทะยานขึ้นมาปิดตลาด 1,278.61 จุด มูลค่าการซื้อขายคึกคักกว่า 5.9 หมื่นล้านบาท
แต่ระดับดัชนีดังกล่าว หากเทียบกับสิ้นปีที่ปิดตลาด 1,288 จุด
นั่นก็ยังหายไปอีก 10 จุด
อย่างที่บอกตอนต้น ดัชนีพุ่งขึ้นมาแล้ว 2 วันติดต่อกัน
มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และพลังงาน แม้กระทั่ง PTTEP ที่น่าจะรับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดปรับตัวลงต่อเนื่อง ก็ยังพลิกเป็นบวกได้
แต่เข้าใจว่า นักลงทุนเองคงมองว่า ราคาหุ้นมันลงมาต่ำเกินไป ก็เลยซื้อ
เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นนิวยอร์ก(คืนก่อนหน้า) และเอเชีย ก็เห็นว่ามีแรงซื้อเข้ามาเช่นกัน สวนทางกับราคาน้ำมันดิบ
ส่วนกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันนั้น ก็ยังบวกครับ หากราคาน้ำมันดิบยังเป็นแบบนี้
หุ้นที่เกี่ยวกับสายการบิน ก็ยังโบยบินต่อไป และที่น่าดีใจคือ BA หรือบางกอกแอร์เวย์ส ราคาหุ้นวานนี้ขึ้นมาปิด 25.25 บาท มายืนเหนือจอง(ไอพีโอ 25 บาท)ได้เป็นครั้งแรกนับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
AAV หรือแอร์เอเชียก็ยังวิ่ง ไม่มี Landing เลย
แต่นักลงทุนบางคนเตือนว่าระวังตกหลุมอากาศด้วยนะ
ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยหากวันนี้ขึ้นอีก ก็จะเป็น 3 วันต่อเนื่อง
ถามนักวิเคราะห์ ก็ได้คำตอบว่า “จะไปต่อ” และมีกลุ่มธนาคารเป็นตัวดันดัชนีอีก เพราะมีฟันด์โฟลว์เข้ามาเก็บหุ้น
คุณรณกฤต สารินวงศ์รองกรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ก็ยืนยันกับผมว่า วันนี้ไปต่ออีก 1 วันครับ
ย้ำนะครับว่า 1 วัน
ส่วนคุณเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ก็บอกเช่นกันว่า “ขึ้นต่อครับ” และน่าจะถึง 1,310 จุด มีหุ้นในกลุ่มธนาคาร และโรงกลั่นเป็นตัวถือธงวิ่งนำตลาด
คุณกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน
คนนี้เป็นอีกคนที่ผมคุยด้วยค่อนข้างบ่อย เขามองว่า รอบนี้มีแรลลี่
ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยขึ้นมานั้น เขาว่ามาจากปัจจัยภายนอก และการที่ค่าเงินหยวนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น
เรื่องค่าเงินหยวนนี้สอดคล้องกับคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่บอกกับผมก่อนหน้านี้ว่า หากค่าเงินหยวนนิ่งๆ อีกซักหน่อย อาจเริ่มเห็นแรงซื้อต่างชาติกลับเข้ามาได้บ้าง
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เพราะ 2 วันที่ผ่านมา ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อเมื่อวันอังคาร 375 ล้านบาท ส่วนวานนี้อีกกว่า 300 ล้านบาท
แต่ก็ยังน้อยครับ หากเทียบกับที่ขายไปก่อนหน้านี้ หรือหากนับเฉพาะช่วงเปิดปีใหม่มาถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็ตกอยู่ราวๆ 8.8 พันล้านบาท(ปี 2558 ขายสุทธิ 1.54 แสนล้านบาท)
แต่นี่เพิ่งจะได้คืนมาเพียง 700 ล้านเท่านั้น
คุณกรภัทร บอกด้วยครับว่า รอบนี้ จะเห็นแรงซื้อกลับของกองทุน
และตลาดหุ้นน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในระยะเวลา 1 เดือน เป้าหมายดัชนีอยู่ 1,337 จุด ส่วนกลุ่มธนาคารนั้น นักลงทุนต่างชาติ จะกลับเข้ามาซื้อมากสุด
ขณะกำลังปิดต้นฉบับสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้น(นิดๆ) ครั้งแรกในรอบ 8 วันทำการ เพราะคาดว่าสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯ อาจลดลงเกินคาด
แต่ราคาน้ำมันดิบก็ยังคงอยู่ระดับต่ำ 31.10-31.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ล่าสุด จีนรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.3% จากติดลบ 3.7% ในเดือนพ.ย.
ปัจจัยบวกช่วงนี้แรงจริงๆ