SPREME ขึ้นสังเวียนเทรด SET โบรกเคาะเป้าสูง 5 บาท ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจ SI แกร่ง
SPREME ลงสนามเทรด SET วันนี้! จับตากระแสตอบรับดีเยี่ยม โบรกชูเป้าสูงสุด 5 บาท ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจ SI แข็งแกร่ง ระดมทุนขยายธุรกิจ ดันรายได้-กำไรปีนี้โตแกร่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ค.67) หลักทรัพย์บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME เตรียมเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) หลังเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท
ด้าน นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPREME เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน เนื่องจากพื้นฐานทางธุรกิจทั้งฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำที่ 0.77 เท่า หลังจากไอพีโอแล้วจะลดเหลือประมาณ 0.34 เท่า ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย และอยู่ในกลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์
ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุนใน SET บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าประมูลงานภาครัฐขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะงานกระทรวงศึกษาธิการที่บริษัทฯ ได้รับงานประมูลอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี รวมทั้งลงทุนซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ (M&A) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพิ่มศักยภาพธุรกิจต่อไปในอนาคต
“การเข้าระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้ชื่อเสียงของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ที่สำคัญทำให้มีเงินทุนรองรับการเติบโต ทั้งการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า 1,000 ล้านบาท และการทำ M&A เพื่อต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพิ่มเติมด้วย และที่สำคัญกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ถือหุ้นเดิมพร้อมใจล็อคอัพหุ้นทั้งหมด 100%” นายภานุวัฒน์ กล่าว
ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า มั่นใจว่า SPREME จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของผู้บริหารมายาวนาน 20 ปี และด้วยจุดเด่น SPREME ที่ดำเนินธุรกิจ System Integrator ซึ่งเป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตได้อีกมาก ตามรูปแบบการพัฒนาด้านการศึกษาของประเทศ และการพัฒนาประเทศเข้าสู่รูปแบบ เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และความปลอดภัยสาธารณะ (Public City)
“SPREME เป็นผู้นำธุรกิจ System Integrator มีจุดเด่นที่เป็นหุ้นไฮบริดทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพฐานทุนให้แข็งแกร่ง และนำไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลก
ทั้งยังเพิ่มศักยภาพการเข้าประมูลงานภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการที่บริษัทฯ ได้รับงานสม่ำเสมอ อนาคตบริษัทฯ พร้อมเติบโตต่อเนื่องตามเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่หยุดยั้ง จึงมั่นใจว่าหุ้น SPREME จะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน ซึ่งการกระจายหุ้น IPO ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน” นายวรชาติ กล่าว
ขณะที่นักวิเคราะห์ต่างประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SPREME ให้ราคาสูงสุดที่ระดับ 5 บาท ประกอบด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME ประเมินมูลค่าหุ้นเหมาะสมของ SPREME ณ สิ้นปี 67 ได้เท่ากับ 5 บาท อิง PE ที่ 20.70 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจคล้ายกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นการคำนวณ EPS จากประมาณการกำไรสุทธิในปี 67 เท่ากับ 180.08 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท
ด้านฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) ระบุว่า SPREME เป็นผู้ให้บริการ SI ครบวงจรตั้งแต่ปี 36 เน้นให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น สัดส่วนรายได้ขายและติดตั้งอยู่ที่ 75-87% ของรายได้หลัก ขณะที่ธุรกิจบำรุงรักษาและให้เช่าคิดเป็น 5-8% และ 4-8% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ประเมินมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 67 ที่ 4.50 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PE ที่ระดับ 16.50 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ย PE ของหุ้นในกลุ่มที่ 15.50 เท่า) เนื่องจากบริษัทมีอัตรากำไรที่เหนือกว่ากลุ่ม โดยมองว่าเป็นวิธีที่เหมาะสม เนื่องจากสะท้อนธุรกิจ SPREME ที่มีลักษณะรายได้ผันผวนตามวัฏจักรการรับรู้รายได้โครงการที่ประมูลได้ในแต่ละปี โดยประเมินการเติบโตของ SPREME อยู่ที่ 22% จากปีก่อน CAGR (66-68) คิดเป็น PEG เพียง 0.8 เท่า ต่ำกว่า <1 เท่า ถือว่าน่าสนใจในทางทฤษฎี
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 67 ของ SPREME ที่ 4.50 บาท โดยมองว่าผลการดำเนินงานปี 67 ปรับตัวได้ดีกว่าปีก่อน การเติบโตของบริษัทมาจากการประมูลงานจากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐที่อยู่ในช่วงของการปรับตัวให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในภาคของหน่วยงานการศึกษา การธนาคาร และการที่บริษัทจะมีการปรับตัวไปในทาง Public Safety และ Smart City เพิ่มมากขึ้น
รวมถึงงานจากทางภาครัฐที่คาดว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ จึงคาดการณ์ว่าปี 2567 รายได้จะอยู่ที่ 1,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 195.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.04% จากปีก่อน
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS) ประเมินว่า SPREME มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะภาคการศึกษา หากดูจากข้อมูลงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้โอกาสของการเติบโตในอนาคตในอุตสาหกรรมยังมีอีกมาก พร้อมด้วยประสบการณ์ของบริษัทกว่า 30 ปี ทำให้บริษัทมีอัตราชนะประมูลกว่า 60-70% นอกจากนี้ ยังได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทเอกชนที่เข้าประมูลงานภาครัฐมาซื้อสินค้าของบริษัทไปใช้งานต่อ
ประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น SPREME ที่ 4.50 บาท อิง PER ที่ 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 67 PER ของบริษัทในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน และเปรียบเทียบกับบริษัทในประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน มีค่าเฉลี่ย PER ในช่วงปี 59-66 ที่ 13.90-14.10 เท่า บนประมาณการ EPS ปี 67 ที่ 0.30 บาท ได้มูลค่าเหมาะสมที่ 4.50 บาท ดังกล่าว