คิดไม่ออก บอก(รีด)ปตท.

หลักทรัพย์ปตท.มีมูลค่าตลาดรวม 9.6 แสนล้านบาท สูงเป็นอันดับ 1 ของตลาดหุ้นไทย แต่ราคาหุ้นไม่ขยับ วิ่งระหว่าง 33-35 บาท มาเป็นเวลาประมาณ 3 ปีแล้ว

ผลตอบแทนจากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน (33.75 บาท) มียีลด์ในระดับ 5.9% ก็ถือว่าไม่เลวนะ ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากแบงก์แน่นอน แต่หากจะหวัง “แคปปิตอล เกน” คงยาก 

ส่วนคนที่ซื้อหุ้น PTT เมื่อ 3 ปีที่แล้วขึ้นไปในระดับ 40-50 บาท ก็คงต้อง “ติดดอย” ยาวสักหน่อย โอกาสจะ “ลงดอย” ภายในปี-สองปีนี้ คงยังมองไม่เห็น

ผมว่า สิ่งที่กัดกร่อนราคาหุ้น PTT ส่วนหนึ่ง ก็น่าจะมาจากปัญหา ESG อันเกิดจากปัญหารัฐเข้าแทรกแซงทั้งทางนโยบายและการปฏิบัติงานต่อบริษัทรัฐวิสาหกิจจดทะเบียนแห่งนี้ไม่น้อย

กองทุนต่างประเทศที่เข้มงวดในเรื่อง “บรรษัทภิบาล” (Good Governance) จะหลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทรัฐวิสาหกิจประเภทนี้ ซึ่งก็ปรากฏว่า สัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติในปตท.ลดน้อยลงไปมาก

ปัจจุบันปตท.มีสัดส่วนต่างชาติ ถือครองหุ้นอยู่แค่ 8.42% เท่านั้น จากเพดานที่ให้ต่างชาติถือครองได้ถึง 30% กลายเป็นว่า หุ้น PTT เป็นหุ้นที่ต่างชาติ ไม่ให้ความสนใจไปเสียแล้ว

หลังจากกระทรวงพลังงานยุค “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ออกนโยบายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แบกรับหนี้ 1 แสนล้านบาท เพื่อลดค่าไฟฟ้าไปก่อน แต่ราคาก๊าซในตลาดโลกอันเป็นชื้อเพลิงหลักผลิตไฟฟ้า ก็ยังพุ่งทะยานไม่หยุด

เพื่อจะตรึงราคาค่าไฟฟ้า (4.20 บาท/หน่วย) กระทรวงพลังงาน ก็ได้คิดค้นแนวทางหาเงินมาตรึงค่าไฟฟ้าจนได้ นั่นก็คือการเรียกค่าปรับ “ชอร์ตฟอล” จากปตท. ที่ปตท.ในฐานะผู้ขายไม่สามารถส่งก๊าซได้ตามสัญญา และจะต้องส่งมอบก๊าซที่ขาดในภายหลังด้วยราคาที่ลดลง

แต่เนื่องจากปตท.คิดราคาส่งมอบภายหลังในราคานำเข้า ไม่ใช่ราคา ณ ปากหลุม (Gulf Gas) กระทรวงพลังงานถือเป็นเหตุต้องจ่ายค่าปรับชอร์ตฟอลครั้งที่ 1 จากการขาดส่งก๊าซช่วง ต.ค. ปี 63-ธ.ค.ปี 65 ไปแล้ว จำนวนเงิน 4,300 ล้านบาท

ปตท.อุทธรณ์ อ้างเหตุการเข้าพื้นที่ล่าช้าในแหล่งเอราวัณของปตท.ไป 2 ปี (ความรับผิดชอบใครก็ไม่รู้) และการปฏิบัติตามสัญญา เป็นไปตามมติกพช.หรือคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ตลอดจนสัญญาซื้อขายก๊าซทุกประการ แต่คณะกรรมการยกอุทธรณ์

ไม่ปรากฏว่าปตท.ยื่นฟ้องไปยังศาลปกครองแล้วหรือยัง แต่ปตท.ต้องจ่ายค่าปรับชอร์ตฟอลไปก่อน

ค่าปรับชอร์ตฟอล มีครั้งที่ 1 แล้วก็ยังไม่พออีกสำหรับค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค. 67 ที่จะมาถึงนี้ เพราะราคาก๊าซ LNG นำเข้าที่ไทยต้องพึ่งพาประมาณ 30–40% ยังทรงตัวในระดับสูง เจ้ากระทรวงพลังงาน จึงสั่งให้ทำการตรวจสอบชอร์ตฟอลเพิ่มเติมในห้วงเวลาอื่นเข้าไปอีก

เที่ยวนี้ย้อนหลังตรวจสอบไกลไปถึงปี 2556-2563 เลยทีเดียว ประมาณการเบื้องต้นจะเรียกค่าปรับจากปตท.ได้ถึง 4,700 ล้านบาท

เที่ยวนี้หากปตท.มิอาจจะทัดทาน นโยบายลดค่าไฟของเจ้ากระทรวงพลังงาน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคได้ ปตท.ก็จะโดนค่าชอร์ตฟอลอ่วมสิริรวม 9,000 ล้านบาท

นี่ยังไม่นับรวมรายการปล้นกลางแดดที่กพช.ขอความร่วมมือปตท.ให้พิจารณาจัดสรรรายได้จากธุรกิจโรงแยกก๊าซเดือนละ 1,500 ล้านบาท จำนวน 4 เดือนรวม 6,000 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 65 ยุครัฐบาลชุดก่อนอีกนะ

บรรษัทภิบาลของปตท.บกพร่องเพราะใคร ไม่อยากจะเซด…เจ็บคอ.!

ชาญชัย สงวนวงศ์