TFM มั่นใจผลงานปีนี้ตามเป้า หลัง Q1 โกยยอดขาย 1.2 พันลบ. ดันกำไรทะลุ 100 ล้าน
TFM มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตดีหลังไตรมาส 1/67 โกยยอดขายพุ่งแตะ 1.2 พันล้านบาท พ่วงคุมต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ หนุนกำไรทะลุ 100 ล้านบาท
บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM รายงานยอดขายไตรมาสแรกประจำปี 2567 ด้วยอัตราการเติบโตถึง 8.40 เปอร์เซ็นต์ และโชว์ความสามารถในการทำกำไรดันอัตราทำกำไรขั้นต้นฟื้นตัวสุดแข็งแกร่งมาอยู่ที่ 16.10 เปอร์เซ็นต์ จาก 4.10 เปอร์เซ็นต์ช่วงเดียวกันปีก่อน อีกทั้งยังกวาดกำไรสุทธิไตรมาสเดียวที่ 104 ล้านบาท มากกว่ากำไรปี 2566 ทั้งปี ส่งผลให้อัตรากำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.21 บาท โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าในปีนี้ธุรกิจอาหารสัตว์เศรษฐกิจจะเติบโต และตั้งเป้าขยายตลาดครองความเป็นผู้นำและผู้ผลิตอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำแบบยั่งยืน
สำหรับภาพรวมธุรกิจ TFM ในไตรมาสแรกปี 2567 มียอดขายอยู่ที่ 1,249.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1,152.20 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.40% เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายอาหารกุ้งที่ปรับตัวขึ้นถึง 11.20% จากยอดขายอาหารกุ้งในประเทศอินโดนีเซีย และยอดขายอาหารปลากะพงที่เติบโตกว่า 32.80% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 201.10 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างแข็งแกร่งถึง 321.20%
โดยเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนภายในโรงงาน การควบคุมประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าได้ตามกลยุทธ์ ทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนการขายได้ 5.10% อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่พลิกมีกำไร ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นจาก 4.10% มาอยู่ที่ 16.10% และมีมูลค่ากำไรสุทธิ อยู่ที่ 104 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 475% จากเดิมที่ช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 27 ล้านบาท
ขณะที่เมื่อเทียบสัดส่วนรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้กับช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่า กลุ่มอาหารกุ้งมีรายได้ 708.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.20%, กลุ่มอาหารปลา 419.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.80%, กลุ่มอาหารสัตว์บก 96.2 ล้านบาท ปรับลดลง 27.20% ซึ่งเป็นผลจากการปรับพอร์ตสินค้าของบริษัทในประเทศไทย ที่หันมามุ่งทำตลาดกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้ดี จึงทำให้อัตราส่วนรายได้อาหารสัตว์บกปรับตัวลดลง ยกเว้นในประเทศปากีสถานที่ขยายตัวถึง 28.80% เนื่องจากทดแทนยอดขายอาหารปลาที่ปรับตัวลดลง และรายได้จากการขายอื่น ๆ 24.80 ล้านบาท
นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมไตรมาสแรกปีนี้บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 104 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิของปีที่แล้วทั้งปี เนื่องจากมีการบริหารจัดการต้นทุนโรงงาน และการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา เพื่อให้สามารถออกแบบสินค้าได้หลากหลายตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าและผู้บริโภค
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารกุ้ง ที่ได้มีการขยายตลาดในประเทศอินโดนีเซียดีมาก จนทำให้ธุรกิจของบริษัทฯ ในอินโดนีเซียสามารถสร้างกำไรได้เป็นไตรมาสแรก ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมของธุรกิจ TFM ที่มีสัญญาณการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา จากปริมาณความต้องการอาหารสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในไตรมาสที่ผ่านมา
นอกจากความสามารถในการทำกำไรแล้ว ในด้านขีดความสามารถทางการแข่งขันและความรับผิดชอบอย่างยั่งยืนในไตรมาสแรกปีนี้ โรงงานไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ มหาชัย ได้รับมอบใบรับรองมาตรฐานอาหารสัตว์ระดับโลกเป็นแห่งแรกในเอเชียจากองค์กร Aquaculture Stewardship Council หรือ ASC ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำดูแลเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยใบรับรองจะมีผลเป็นระยะเวลา 3 ปี นับเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เพื่อสร้างอนาคตที่ดีอย่างยั่งยืนเพื่อผู้คนและโลก
“กลยุทธ์สำคัญของ TFM คือการมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มคิดค้นและส่งสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดโลก ควบคู่ไปกับการผลักดันให้พวกเราทั้งอุตสาหกรรมเติบโตแบบยั่งยืน ผ่านการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ใส่ใจในทุกกระบวนการให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสัตว์อย่างยั่งยืน เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำการผลิตอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจแบบยั่งยืน” นายพีระศักดิ์ กล่าว