3 โบรกประสานเสียง “ซื้อ” SAV เป้าสูง 25 บ. ลุ้นกำไร Q1 ออลไทม์ไฮ รับเที่ยวบินพุ่ง
3 โบรกฯ ประสานเสียง! เชียร์ซื้อ SAV ราคาเป้าหมาย 24-25 บาท ลุ้นกำไรไตรมาส 1/67 ออลไทม์ไฮ รับเที่ยวบินใน-นอกประเทศเพิ่ม หนุนกำไรปี 67 โต 104% แตะ 556 ล้านบาท
บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ผู้ให้บริการบริหารจัดการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวในน่านฟ้ากัมพูชา โดย SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจหลัก คือ การให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่าน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้สิทธิในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชา ระยะเวลารวม 49 ปี (2545-2594)
โดยผู้สื่อข่าว รายงานบทวิเคราะห์สำหรับหุ้น SAV ผ่าน 3 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ได้แก่ 1.) บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SAV และให้ราคาเป้าหมายที่ 25 บาท เนื่องจากมองว่าฐานะทางการเงิน และกระแสเงินสดแข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิทั้งปี 2567 คาดการณ์ว่าจะเติบโตโดดเด่นถึง 104% พร้อมมีโอกาสคว้างานบริหารจราจรทางอากาศในสปป.ลาว ที่มีศักยภาพสูงและมีเที่ยวบินทั้งหมดมากกว่ากัมพูชา 2-3 เท่า
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่ากำไรจะเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องใน 3 ปี เป็นผลจากการเติบโตของการจารจรทางอากาศในกัมพูชา ทำให้กำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นมา พร้อมทั้งคาดการณ์ว่ากำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 ตามการเติบโตของจำนวนเที่ยวบิน และแรงหนุนของการเปิดบริการเที่ยวบินของแอร์เอเชียกัมพูชาในเดือนพฤษภาคม 2567 รวมทั้งการเปิดดำเนินการของสนามบินอีก 3 แห่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงปี 2567-2569 จากฐานกำไรที่ตํ่าในปี 2566
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรของบริษัทฯ จะเติบโตสูงถึง 104% มาอยู่ที่ 556 ล้านบาทในปี 2567 และเพิ่มอีก 23% มาเป็น 684 ล้านบาทในปี 2568
2.) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SAV ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3 เท่า ทำสถิติสูงสุดใหม่หลังวิกฤตอยู่ที่ 93 ล้านบาทในไตรมาส 1/2567 (เทียบกับ 31 ล้านบาทในไตรมาส 1/2566) ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณเที่ยวบินรวมในไตรมาส 1/2567 จะเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งปริมาณการลงจอดและบินขึ้นระหว่างประเทศควรเติบโต 15-20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (50-55% ของก่อนโควิด) เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้น
รวมถึงปริมาณเที่ยวบินข้ามประเทศควรเพิ่มขึ้น 5-10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (90-95% ของก่อนโควิด) นำโดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม ส่งผลให้รายได้น่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ เนื่องจากปริมาณเที่ยวบินที่สูงขึ้นและการแปลงค่าเงินที่เป็นบวก (หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรหลักไม่รวมภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) จะเพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่108 ล้านบาท และบริษัทฯ น่าจะบันทึก WHT อยู่ที่ 14-16 ล้านบาทในไตรมาส 1/2567 (เทียบกับ 47 ล้านบาทในไตรมาส 1/2566) ส่งผลให้กำไรเติบโต 204% สู่ระดับ 93 ล้านบาท
ส่วนกำไรหลักปี 2567 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 56% มาเป็น 436 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น 20% มาเป็น 1.11 แสนเที่ยวบิน (83% ของเที่ยวบินก่อนโควิดอยู่ที่ 1.34 แสนเที่ยวบิน) ประกอบกับดอกเบี้ยจ่ายน่าจะลดลงอย่างมากจาก 69 ล้านบาทในปี 2566 เหลือเพียง 2-4 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯ จ่ายคืนเงินกู้ระยะยาวด้วยเงินที่ได้รับจากเสนอขายหุ้น IPO อีกทั้งประเมินปริมาณเที่ยวบินแตะระดับก่อนโควิดปี 2568 ซึ่งคาดการณ์กำไรหลักจะเร่งตัวขึ้นเป็น 568 ล้านบาท มากกว่ากำไรก่อนโควิดอยู่ที่ 499 ล้านบาท
3.) บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุคงคำแนะนำ “ซื้อ” SAV ด้วยราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 24.17 บาท โดยคาดการณ์ว่ากำไรไตรมาส 1/2567 ที่แข็งแกร่งจะเป็นผลเชิงบวกต่อราคาหุ้น และคาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 229% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ประเมินรายได้จะอยู่ที่ 414 ล้านบาท ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ที่ลดลงนั้น สาเหตุจากรายได้จากงานภายใต้สัญญาสัมปทานจำนวน 143 ล้านบาท ซึ่งบันทึกไว้ในไตรมาส 4/2566 และรายได้จากการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 12 (TFRIC12) ซึ่งบันทึกเท่ากับต้นทุนอุปกรณ์และระบบที่ลงทุนในท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ซึ่งเปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2566 ขณะเดียวกันรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้น อาจเป็นผลจากจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการที่เพิ่มขึ้น